50 ปี BMW M อัดรถ M ในสนามช้าง




โลโก้ BMW ที่มีรูปครึ่งวงกลมเป็นสีน้ำเงิน ม่วง และแดง ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1973 ในรถแข่งของทีม BMW Motorsport GmbH ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1972 ด้วยการเปิดตัว BMW 3.0 CSL และ BMW M1 ตามด้วยรถ M อีกนับสิบรุ่น สัญลักษณ์แถบสามสีเอียงไปทางขวาและตัวอักษร M ถูกใช้ประกาศตัวตนในวงการมอเตอร์สปอร์ต ตราสัญลักษณ์ดังกล่าว ยังกลายเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีมูลค่าการจดจำสูงและมีพลังในการระบุตัวตนของรถยนต์ BMW ในยุค 70 ให้เป็นที่จดจำ ย้อนกลับไปในปี 1972 Robert A. Lutz สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ BMW เป็นนักขายที่มีพรสวรรค์ มีการนำเอาแนวคิดของอเมริกันที่ว่า “ชนะในวันอาทิตย์ แล้วขายในวันจันทร์” พร้อมการก่อตั้งแผนกมอเตอร์สปอร์ต BMW Motorsport GmbH เป็นครั้งแรก

BMW M เติบโตจากแผนกแข่งรถของ BMW Group รถยนต์ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ ไล่ตั้งแต่ M135i ไปจนถึง M760 IL ล้วนแล้วแต่สืบเชื้อสายมาจากรถแข่ง 3.0 CSL ปี 1972 ซึ่งเป็นรถคูเป้สำหรับการแข่งขันที่มีวิงหลังขนาดใหญ่ การถ่ายทอด DNA ของรถแข่งลงไปสู่รถถนน เพื่อยกระดับการขับและพัฒนาเทคโนโลยีระบบส่งกำลังที่มีประสิทธิภาพ (สูง) ในฐานะแบรนด์ย่อย ปัจจุบัน BMW M มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มากถึง 163,542 คันทั่วโลกในปีที่แล้ว (2021) เพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์จากตัวเลขในปี 2020 

ความรู้สึกพิเศษเกิดขึ้นทันทีที่ผมเดินเข้ามาในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของแบรนด์ M ซึ่งปิดสนามแข่ง ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต เพื่อการทดลองขับรถ M ของสื่อและลูกค้า เมื่อได้เห็นรถทดสอบที่อยากขับแต่ไม่เคยได้ขับอย่าง BMW M760Li / BMW X4 M Competition / BMW New M4 Competition ทั้งสามรุ่นเป็นรถ M ที่ผมยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าไปนั่ง ส่วน M340i xDrive ในสเตชันยิมคาน่านั้นเป็นรถที่เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขถึงสองอาทิตย์ เป็นเวลา 14 วันที่พิเศษสุดสำหรับแฟนคลับ M ที่ได้ลองขับยาวๆ กับ Series-3 รุ่น 6 สูบสุดแรง แม้บางคนจะเรียกมันว่า M ปลอมก็ตาม M340i xDrive อยู่ในใจของนักขับหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีผมรวมอยู่ด้วยเสมอ สำหรับงานวัน 50 ปี  M Power ช่วงบ่ายวันนี้ สถานีแรกที่ผมจะต้องเจอก็คือ แดรกเรซ กับการตะบันเรือธงราคาแพงอย่าง BMW M760Li xDrive วิ่ง 0-400 เมตร เพื่อการเอาชนะ ซึ่งเปรียบเสมือนกับสิ่งที่ BMW M ทำมาตลอด 50 ปี นั่นก็คือการแข่งขันรถยนต์ในกีฬามอเตอร์สปอร์ต 

ในรอบวอร์มอัพ ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. เครื่องยนต์ V12 ของ BMW M760Li xDrive ปี 2022 แทบจะไม่ทำงานเลย มันคารอบเครื่องสำหรับการวิ่งแผ่วๆ วนดูแทร็กหนึ่งรอบ ที่ 1,100 รอบต่อนาที แต่ผมต้องไปให้ได้ถึง 5,900 รอบต่อนาที เพื่อไปให้ถึงเรดไลน์ อย่าลืมว่า นี่คือ BMW รุ่นเรือธง ซึ่งเน้นความโอ่โถงและสง่างามบนท้องถนนมากกว่าจะเอามาอัดแข่งแบบควอเตอร์ไมล์ เทพแห่งความสบายหรือสวรรค์ชั้นเจ็ดอย่าง 7 Series รหัส G12 รุ่นท็อปสุดคันนี้ นับเป็นเครื่องยนต์ V12 ตัวสุดท้ายของแบรนด์ที่มีเทคโนโลยี M Performance Twin Power Turbo เครื่องเบนซิน 12 กระบอกสูบ เทอร์โบคู่ ความจุ 6.6 ลิตร ให้กำลังมหาศาลถึง 600 แรงม้า และแรงบิดระดับนรกแตกที่ 800 นิวตันเมตร (590 ปอนด์/ฟุต) สร้างอัตราเร่งสำหรับรถซาลูนหรูไซส์ใหญ่ด้วยตัวเลข 0-100 กม./ชม. เพียง 3.7 วินาที แรงดึงหนักแน่น เต็มไปด้วยพลังของแรงบิดปั่นลงล้อทั้งสี่ เมื่อวิ่งเข้าเส้น 400 เมตร มันทำตัวเลขได้แค่ 11.3 วินาที นั่นถือว่าเร็วเอาเรื่องสำหรับรถผู้บริหารน้ำหนัก 2 ตัน 

เครื่องยนต์ V12 บล็อกอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปแบบพิเศษ ใช้โครงสร้างแบบปิด พร้อมกับสลักเกลียวที่ยึดฝาครอบ แผ่นพื้นของเพลาข้อเหวี่ยงพร้อมกับสลักเกลียวคู่บน ตลับลูกปืนหลักที่ปรับปรุงใหม่ และเพลาข้อเหวี่ยงกับก้านสูบแบบพิเศษตามสไตล์ของรถ M Car เกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ ต่อเชื่อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้ M760Li พุ่งตรงเป็นลูกธูนในขณะออกตัวจากจุดสตาร์ต แม้จะเป็นรถของท่านประธานบริหารระดับสูง รถของนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่ท่านทูตบางประเทศที่ยึดติดกับตราใบพัด แต่ระบบไอเสียของ Series-7 V12 ก็ไม่ได้ถูกมองข้ามหรือทำออกมาแบบง่อยๆ เนื่องจากความเป็นรถ M ท่อระบายตรงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่สุด เพื่อลดแรงดันย้อนกลับ BMW จูนท่อให้เสียงกระหึ่มมากยิ่งขึ้นด้วยวาล์วปีกนกบนท่อเก็บเสียงด้านหลังที่ปรับแต่งเพื่อให้เสียงที่ BMW เรียกว่า “เอม ซาวด์แทร็ก” 

ตราประทับบนเสา B บ่งบอกว่า เฟรมของ G12 ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งแสดงถึงการใช้วัสดุน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ในบริเวณห้องผู้โดยสาร มันไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและน้ำหนัก ซึ่งช่วยในการขับขี่และการควบคุมทิศทางของรถให้ดีขึ้น ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วแบบพิเศษเคลือบสีเทา Cerium Grey แบบด้าน ติดตั้งยาง Bridgestone Potenza ขนาด 245/40 R20 ที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังยัดยางขนาด 275/35 R20 วิธีการเซตรถที่พบได้ในยานยนต์ประสิทธิภาพสูง เช่นเดียวกับ Porsche Panamera Turbo แต่ในกรณีของ M760Li ยังเพิ่มความสบายขณะขับเคลื่อนด้วย Active Comfort Drive และ Road Preview ซึ่งเป็นระบบควบคุมช่วงล่างแบบแอ็กทีฟที่เชื่อมโยงการตั้งค่ากับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Adaptive Air Suspension ราคา 13,499,000 บาทของ M760Li xDrive ถูกกว่า Lexus LS500h executive pleat แต่แพงกว่า Mercedes-Benz New S-Class S580e Premium ถึง 6,309,000 บาท เลยทีเดียว (S580e Premium ราคา 7,190,000 บาท)

สถานีต่อไปเป็นการอัด X4M Competitionและ M4 Competition แค่ครึ่งรอบสนาม เนื่องจากสถานีสุดท้ายซึ่งใช้ส่วนรันออฟด้านขวาของโค้งสี่มาจัดเป็นสนามยิมคาน่า และเปิดบริการซิ่งวนรอบกรวย ด้วยรถ BMW M340i xDrive ผมและเพื่อนๆ สื่อมวลชนเลยได้ลองกันแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งน่าเสียดายมากเพราะมาถึงสนามช้างแล้วก็ควรจะได้อัดรถ M แบบเต็มเหนี่ยวครบรอบสนาม เมื่อเดินมาถึงตัวโหดทั้งสองคัน ผมเลือก X4 M คันหลังสุด เพราะไม่อยากถูกขับจี้ท้ายด้วยเอสยูวีคันโตถ้าไปขับ M4 แล้วคันหลังมีฝีมือเหนือกว่าก็จะโดนกดดัน การอยู่รั้งท้ายทำให้รู้สึกสบายใจมากกว่าการขับไล่กันแล้วมีคันหลังมาดันท้าย ระบบส่งกำลังที่มหึมาของ X4 M ยกเอาเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ทวินเทอร์โบของ M4 มายัดเอาไว้ทั้งตัว ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ทวินสคูล และเทคโนโลยีห้องโดยสารที่ยอดเยี่ยมของ BMW – แต่ประสบการณ์การขับนั้นสูญเสียความเป็น M Car ไปจากการประนีประนอมอย่างมากในด้านความสะดวกสบาย และความจุของห้องโดยสาร การนำประสิทธิภาพระดับ M และความสวยงามแบบสปอร์ตคูเป้ไปจนถึงแชสซีส์ SUV ทรงสูง ทำให้ X4 M เป็น Sport SUV แบบครึ่งๆ กลางๆ 

เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร M TwinPower Turbo แบบหกสูบเรียงของ BMW คือหัวใจที่สูบฉีดอย่างรุนแรงของ X4 M เครื่องยนต์ให้กำลัง 503 แรงม้า ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมช่วงล่าง M Sport ที่เน้นสมรรถนะ เฟืองล็อกดิฟเฟอเรนเชียลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทแรงบิด แพ็กเกจ Competition ทำให้ม้าเพิ่มมาอีก 30 ตัว แรงบิดสูงสุดยังปีนขึ้นไปที่ 650 นิวตันเมตร หรือ 479 lb-อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 4.0 วินาที เป็นตัวเลขอัตราเร่งโดยประมาณมาจากโรงงาน เสียงเครื่องยนต์ดังมากขึ้นด้วยวาล์วพิเศษ M Power จัดท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่เปิดกลไกวาล์วภายในอออกจนหมดเมื่อเลือกใช้โหมดสปอร์ต X4 M มีเบรกประสิทธิภาพสูง เบรก BMW M ซึ่งสามารถเลือกสีคาลิปเปอร์ สีดำ แดง หรือน้ำเงิน คาลิปเปอร์ด้านหน้าแบบสี่ลูกสูบและด้านหลังแบบลูกสูบเดี่ยว

X4 M ใช้ระบบกันสะเทือน Adaptive M Suspension ซึ่งช่วยให้ผู้ขับปรับความกระชับในการขับขี่ด้วยการกดปุ่มเพียงแค่ปุ่มเดียว ในทางปฏิบัติเมื่อขับจริงในสนามแข่ง การตั้งค่าระบบกันสะเทือนแบบแข็งจำเป็นสำหรับการควบคุมรถ SUV คันโตที่มีน้ำหนักมาก มันแตกต่างไปจากรถสปอร์ตของ M ในด้านการควบคุม หมายความว่าการขับขี่นั้นมั่นคงพอใช้ได้เมื่ออัดเร็วๆ ในสนามช้าง ช่วงล่างแข็งเกินไปนิด แต่ระบบควบคุมการยึดเกาะ และเฟืองท้าย M ทำงานได้ดี พอที่จะทำให้ X4 M ไล่ตาม M4 ได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าใดนัก ขีดจำกัดของการควบคุมรถ SUV ที่มีแรงม้าท่วมๆ แบบนี้ก็คือเบรกให้ลึกก่อนโค้ง รักษารอบเครื่องยนต์ในโค้งและพุ่งออกทันทีที่หัวรถกำลังจะพ้นส่วนปลายของโค้ง

เช่นเดียวกับรถ M รุ่นปัจจุบันทั่วไป X4 M มีโหมดการขับเคลื่อนหลายแบบที่ปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพและการตอบสนองของระบบกันสะเทือน ลิ้นปีกผีเสื้อ พารามิเตอร์ เช่น ROAD, SPORT และ TRACK สำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ xDrive และเกียร์ ZF 8 สปีดที่พ่วงเพลาหน้าด้วยชุดส่งกำลัง transfer case และเช่นเดียวกับพี่น้อง M Car มันมีโหมดซ้อนทับกันมากเกินไปให้เลือก ซึ่งนำไปสู่ความสับสนเมื่อพยายามตั้งค่าที่ผมต้องการในระยะเวลาสั้นจู๋ โชคดีที่ X4 M ยังมีแป้นควบคุมโหมด M1 และ M2 บนพวงมาลัย ผมใช้ปุ่มทางลัดนี้ กดเพื่อปรับแต่งการตอบสนอง (ขณะจอดรถ) ล้อ M ลายสวยของ X4 M เป็นล้อ M Double-spoke ขนาด 21 นิ้วที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (เมื่อเทียบกับล้อของ X4 รุ่นมาตรฐาน) ยาง Continental รุ่น Sport contact 6 หน้าไซล์ 225/40ZR21 ส่วนด้านหลังยัดยางกว้างกว่าในไซล์ 265/40ZR21s ขอบล้อที่ใหญ่ขึ้นและแก้มยางที่เตี้ยลงจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวของรถ SUV ในด้านคุณภาพการยึดเกาะ

X4 M กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีดที่ใช้งานง่าย เปลี่ยนเกียร์เร็วราวกับเกียร์คลัตช์คู่ และมีความฉลาดหลักแหลมของซอฟต์แวร์สั่งงาน มากพอที่จะลดเกียร์ให้ถึงสองตำแหน่งเมื่อใช้เบรกหนักๆ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ตอบสนองฉับไว ซึ่งสมควรได้รับเครดิตสำหรับตัวเลขอัตราเร่งและการยึดเกาะที่ดี แม้จะใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีน้ำหนักมากเอาการ แต่สปอร์ตเอสยูวีหลังคาค่อมก็อัดแน่นด้วยพลังงานมากพอที่จะหมุนปั่นล้อจนทำให้ยางเกิดควันจากการเสียดสีในระหว่างการปล่อยคันเร่งเต็มที่

การปรับโฉมในปี 2022 ของ BMW X4 M Competition รวมถึงการอัปเกรดกันชนหน้า การปรับแต่งที่ด้านหลังอย่างละเอียด สีและล้อใหม่ โดยทั่วไป รุ่น LCI จะให้ความรู้สึกเหมือนการเปลี่ยนโฉมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน X4 ก่อนการปรับโฉมมีแผงด้านหน้าที่สะอาดตากว่าและกระจังหน้าไตคู่ที่เล็กกว่าเล็กน้อย ทำให้ดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น เปรียบเทียบกับป้ายหน้ายิ้มของรุ่นนี้และกระจังหน้าแบบขยาย ซึ่งตอนนี้เชื่อมต่ออยู่ตรงกลาง และด้านหน้าของรุ่น LCI ทำให้รถดูโหดน้อยลง ไฟหน้าในเวอร์ชันใหม่นี้ ออกแบบให้เพรียวบาง และคมเข้มขึ้น ซึ่งทำให้ M SUV รุ่นนี้ดูดุดัน รายละเอียดด้านหลังยังคงรูปแบบไฟท้ายทรงเดิม ดิฟฟิวเซอร์สีดำเงาและปลายท่อไอเสียทรงกลมแบบลูกซองแฝดรมดำ แทนที่ปลายท่อทรงสี่เหลี่ยมคางหมูในรุ่นก่อนปรับโฉม

หากคุณชอบเอสยูวีสไตล์คูเป้ X4 M Competition คือรถอเนกประสงค์บ้าพลังที่หล่อเหลาเอาเรื่อง ห้องโดยสารและเทคโนโลยีความปลอดภัยของ BMW ก็น่าจะดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากนี้ ยังน่าประทับใจที่ BMW ได้ปรับจูน SUV อ้วนๆ คันนี้ด้วยจิตวิญญาณและความคล่องตัวของรถ M ที่เหมาะสม มีหลายสิ่งที่แสดงออกถึงควาสมสำเร็จในอดีตของการแข่งขัน และ BMW X4 M Competition ปี 2022 ก็คือความสมดุลของจักรกล M Car แม้จะไม่สุดเท่า M4 Competition แต่ความแตกต่างด้านอารมณ์นั้นยังคงเป็นสิ่งที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ ราคา 8,599,000 บาท วางตัวอยู่ตรงกลางในกลุ่มยานยนต์สมรรถนะสูงที่ลูกค้าสาย M พอจะเอื้อมถึง 

สถานีที่สาม เป็นการขับยิมคาน่าในรถคันโปรดอย่าง BMW M340i xDrive การขับสลาลมเพื่อจับเวลาหาผู้ที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดของวันนี้ M340i นั้นมีเครื่องยนต์ B58B30 แบบเดียวกับใน M140i/M240i Z4 M40i และ 440i/ ซึ่งเป็นเครื่อง 3.0 ลิตร Twinscroll Turbo ซึ่งประจำการอยู่ใน Z4 M40i  จากที่เคยมีกำลัง 340 แรงม้า (bhp) ในปี 2019 พอมาถึงปี 2021 เรี่ยวแรงถูกอัปขึ้นเป็น 387 แรงม้า ส่วนใน Series-3 M340i ตอนลืมตาดูโลกและโผล่ออกมาจากโรงงานประกอบ BMW ที่ระยอง ก็มีกำลังท่วมท้นมากถึง 387 แรงม้า เช่นเดียวกัน เทอร์โบมีเวสต์เกตควบคุมด้วยไฟฟ้าที่ช่วยให้รถตอบสนองคันเร่งได้เร็ว เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง วางตามยาว ขับเคลื่อนทุกล้อ ถูกปรับแต่งระบบเกียร์ ช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยว ให้สามารถตอบสนองต่อเท้าที่หนักอึ้งของคนขับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDRIVE ให้ความเสถียรขณะปลดปล่อยแรงบิด ตอนที่ BMW พัฒนาเครื่องตัวนี้ พวกช่างและวิศวกรตราใบพัดก็เอาเครื่องยนต์ 6 สูบ กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของแบรนด์อื่น มาเทียบวัดมาตรฐานด้วย โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 6 สูบเทอร์โบพร้อม Mild Hybrid 48V ที่อยู่ใน AMG 53 หลากหลายรุ่น

กุญแจในการสร้างสมรรถนะที่น่าประทับใจของ M340i xDRIVE อยู่ที่การจูนอัพชุดบังคับเลี้ยว พวงมาลัย BMW servotronic steering ช่วงล่าง Adaptive Suspension M specific elastokinematics, hydraulically damped torque strut bearings และเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป M differential ให้ทำงานด้วยกันได้อย่างลงตัว แค่หักพวงมาลัย โช้คอัพหน้าก็จะปรับน้ำหนักเตรียมรับแรงเหวี่ยงแล้ว นอกจากนี้ยังมีการปรับบาลานซ์ระหว่างโช้คอัพหน้ากับหลังตลอดเวลาที่ขับอีกด้วย และเมื่อเจอเข้ากับผิวถนนที่ไม่เรียบ ช่วงล่างของ M340i ก็ไม่ได้มีอาการกระด้างกระเดื่องจนนั่งไม่สบาย คุณสามารถขับมันได้ทั้งวันแล้วยังลงมาเดินเหินได้อย่างสะดวกโดยไม่มีอาการปวดหลังเมื่อยบั้นเอว โปรแกรม active sound design สร้างเสียงเร้าใจในโหมดสปอร์ตและสปอร์ตพลัส โดยใช้การสังเคราะห์เสียงผ่านลำโพง รวมถึงวาล์วบายพาสในท่อที่เปิดออกจนสุด จุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีอีกเช่นกัน

M340i xDRIVE มี Driving mode ให้เลือกหลายแบบเช่นเดียวกับ BMW รุ่นอื่นๆ ซึ่งเมื่อเลือกโหมดไป ก็จะมีการปรับตั้งค่าสำหรับพวงมาลัย โช้คอัพ เกียร์ และการตอบสนองของเครื่องยนต์ มีทั้งโหมด ECO-PRO Comfort, Sport Sport + Adaptive อย่างไรก็ตามในแต่ละโหมด วิศวกรปรับให้มีความแตกต่างในการทำงานชัดเจนขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ ในโหมด Sport กับ Sport + เมื่อก่อน Series-3 เครื่อง 3 ลิตร ขับหลัง จะเป็นรถที่ท้ายออกง่ายพอสมควร แต่เมื่อมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทำให้อาการดังกล่าวหายไปพร้อมกับการยึดเกาะของส่วนท้ายในโค้งดีขึ้นมาก พวงมาลัยตึงไม้ตึงมือและมีแรงดีดกลับที่เหมาะสม ลองกดคันเร่งตอนพวงมาลัยหมุนสุดดู จะพบว่ามีแรงดีดพยายามสู้มือชัดเจน มีอาการโอเวอร์สเตียร์เบาๆ ถ้ากดคันเร่งไม่มากไป การที่รถเหวี่ยงออกในลักษณะนี้ เป็นผลมาจากการใช้ฐานล้อสั้นลง แต่ไม่ใช่ว่ามันจะพยศจนหาความปลอดภัยไม่ได้ แค่มีนิสัยดีดดิ้นมากกว่าที่คุณคิดหน่อยแค่นั้นเอง บุคลิกอย่างนี้ทำให้ M340i xDRIVE สามารถเรียกตัวเองว่ารถสปอร์ตซีดานได้อย่างเต็มปากเต็มคำ คือมันจะมีการตอบสนองที่ดีในทุกองคาพยพ เรียกว่ากดเป็นพุ่งและนิ่งมากในย่านความเร็วสูง รวมถึงการเข้าโค้งอย่างเฉียบคม ซึ่งรถซีดานสี่ประตู น้อยคันจะทำได้แบบนี้ สิ่งที่แย่ก็คือ ยางที่โดนกระทำชำเรามาตั้งแต่เช้าก็เริ่มหมดสภาพในช่วงเย็น กริ้บที่เหลือน้อยเต็มที กับการเติมคันเร่งแค่นิดเดียวเมื่อพยายามจะกดให้เวลาออกมาดีก็ทำให้ส่วนท้ายของรถเริ่มออกอาการ สื่อหลายคนพุ่งเลยจุดเบรกทั้งในรอบทดสอบและรอบจับเวลาจริง การชนไพล่อนที่จุดเบรกหมายถึงเวลาที่ทำมาทั้งหมดนั้นสูญเปล่า รวมถึงตัวผมเองที่พยายามเข่นในจุดยูเทิรน์วงกลมจนทำให้เวลาออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ผู้ชนะที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดของวันก็คือ อู๋ Spin-9 

สถานีสุดท้ายของวันเป็นการขับ BMW M340i xDrive เต็มรอบสนาม ฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่บ่ายแก่ๆก็กระหน่ำลงมาอย่างหนักจนทำให้การขับในสถานีสุดท้ายต้องถูกยกเลิกไปโดยปริยาย ภาพรวมของงาน M 50 ปี ในสนามช้างก็คือ เครื่องยนต์และช่วงล่าง ยังคงเป็นหัวใจของ M Car สำหรับขุมกำลังนั้น ถูกพัฒนาจนเดินมาถึงทางแยกที่กำลังจะกลายเป็นจุดสิ้นสุด ทุกวันนี้  BMW M ไม่ได้มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังอีกต่อไป แน่นอนว่าบางรุ่นยังคงรักษาเส้นทางเดิมๆ เอาไว้ นั่นก็คือการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังพร้อมระบบเกียร์แมนนวลหรือเกียร์ธรรมดา ใช้เครื่องยนต์ติดตั้งระบบอัดอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมมาก พร้อมระบบรักษาเสถียรภาพที่ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน แต่ลักษณะของการแสดงออกก็ยังเหมือนกับ M Car คันแรกเมื่อ 50 ปีก่อน นั่นก็คือ การยึดโยงกับมอเตอร์สปอร์ตและชัยชนะในสนามแข่งนั่นเอง.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

Share

Recent Posts

New York City’s Sweetest Ice Cream Shops To Check Out

New York City is a haven for food lovers, and when it comes to ice… Read More

11 months ago

Explore Montenegro, The Hidden Gem of the Balkans

Montenegro, a hidden gem nestled in the Balkans, offers travelers a captivating experience with its… Read More

11 months ago

Spice Up Your Salad Game With These Tips To Make Salads More Exciting

Salads are a fantastic way to incorporate fresh and nutritious ingredients into our daily meals.… Read More

11 months ago

The Best Travel Destinations For Fitness Enthusiasts

  For fitness enthusiasts seeking to combine their love for travel and physical well-being, there… Read More

11 months ago

What To Do On Your First Visit To Edinburgh

Edinburgh, the capital city of Scotland, is a captivating destination that offers a perfect blend… Read More

12 months ago

Which Are The Consistently Most Popular Starbucks Drinks?

Starbucks has become a global phenomenon, captivating millions of coffee enthusiasts with its diverse menu… Read More

12 months ago