วิธีแก้ไขเมื่อขับรถลุยน้ำแล้วดับกลางถนน!




กลายเป็นเรื่องท่ีเข้าใจและยอมรับกันได้ของแฟนคลับท่านผู้ว่ายูทูบเบอร์ กับกรณีน้ำรอระบายที่สร้างความเดือดร้อนให้กับการสัญจรบนท้องถนนของกรุงเทพมหานคร นี่ถ้าหากเป็นท่านผู้ว่าฯ คนก่อนอย่างท่านอัศวิน ก็น่าจะโดนก่นกันจนนอนไม่หลับ ความรักแบบไม่ลืมหูลืมตาของเหล่าบรรดาแฟนคลับ ทำให้ท่านผู้ว่ารอดตัวไปได้ในหลายๆเรื่อง เนื่องจากคะแนนนิยมที่ล้นหลาม แต่ถ้าหากถนนในกรุงเทพฯ ยังคงท่วมซ้ำซากอยู่แบบนี้เมื่อมีฝนตกลงมาเกินกว่า 100 มิลลิเมตร ก็อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ เมื่อต้องใช้รถใช้ถนน ท่ามกลางน้ำรอระบายที่ทำให้รถยนต์หลายคันไปไม่รอดจอดตายกลางน้ำ 

ก่อนที่จะอ่านวิธีแก้ไข มาดูสาเหตุที่ทำให้รถดับกลางน้ำท่วมสูงกันดีกว่า เอาเป็นว่า สำหรับรถเก๋งทั่วไป ระดับน้ำที่เกินจาก 30 เซนติเมตร ก็สามารถทำให้ความชื้นซึมเข้าไปสร้างปัญหาให้กับเครื่องยนต์ได้แล้ว 

น้ำเข้ากรองอากาศ นี่แสดงว่าลุยมาหนักผ่านน้ำท่วมสูงจนน้ำไหลเข้าไปในระบบกรองอากาศของเครื่องยนต์ หรือวิ่งด้วยความเร็วต่ำลุยน้ำอยู่ดีๆ โดนพี่กระบะยกสูงที่ขับแบบไม่แคร์สังคมวิ่งลุยฝ่าน้ำด้วยความเร็วจนทำให้เกิดคลื่น และคลื่นนี่เองที่อาจซัดเข้ามาจนมิดฝากระโปรงหน้า ในจังหวะที่คลื่นกระแทกเข้ากับกระจังหน้าผ่านฝากระโปรงจนทำให้น้ำเข้าไปในท่อที่มีกรองอากาศอยู่ภายใน และเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้จนทำให้เครื่องดับ 

น้ำเข้าไปในกล่องฟิวส์ อันนี้จะเกิดการลัดวงจรจากความชื้นในระบบไฟ ลุกลามกลายเป็นเครื่องดับกลางน้ำ

น้ำเข้าไปทางท่อระบายไอเสีย นั่นหมายถึงการระบายไอเสียจะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพหรือมีน้ำท่วมสูงจนมิดท่อ อาจส่งผลไปถึงระบบเชื้อเพลิงหรือหัวฉีดเกิดปัญหา ตามมาด้วยเครื่องยนต์ดับ

วิธีแก้ไขเบื้องต้นก็คือ ติดสเปรย์ไล่ความชื้นหรือโซแนคเอาไว้ในรถเมื่อต้องใช้รถในฤดูฝน ถ้าเครื่องยนต์ดับขณะที่ลุยน้ำอยู่นั้น อย่าพยายามสตาร์ตเครื่อง เนื่องจากน้ำอาจเข้าไปในกระบอกสูบแล้ว หากพยายามสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อไปต่อ ก้านสูบอาจเกิดอาการคดงอได้ นั่นหมายถึงเรื่องใหญ่ละครับ วิธีแก้ไขก็คือ เข็นรถให้พ้นน้ำท่วมสูง (อันนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะถนนท่วมยาวทั้งเส้นแถมยังมีฝนกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เปิดฝากระโปรงหน้ารถ ดูกรองอากาศว่าเปียกหรือไม่ ถ้ากรองยังแห้งดีอยู่ก็เบาใจได้บ้าง เนื่องจากเครื่องดับส่วนใหญ่เกิดจากความชื้นเข้าไปในเครื่องยนต์ที่กำลังทำงาน โดยเฉพาะความชื้นที่เข้าไปในระบบไฟ 

โซแนคที่ซื้อมาติดรถเอาไว้นานแล้ว ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อความพยายามในการแก้ไข ให้ใช้โซแนคฉีดสายไฟ ข้อต่อสายไฟ แล้วทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง แล้วลองสตาร์ตเครื่องยนต์ใหม่อีกครั้ง และถ้าโชคดี เครื่องยนต์อาจติดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ถ้าน้ำยังสูงอยู่ ลุยไปก็ดับอีก ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง ว่าจะลุยต่อจนถึงจุดหมาย หรือจอดรอจนกว่าระดับน้ำจะลดต่ำลงจนไม่ส่งผลกระทบกับเครื่องยนต์

ปัญหาใหญ่ก็คือ เมื่อพบว่ากรองอากาศเปียกชื้น วิธีแก้ที่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับคุณสุภาพสตรีและคนที่ไม่มีความชำนาญเกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไก นั่นก็คือ ถอดหัวเทียนออกมาให้หมดทุกตัว แล้วลองสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อทำให้กำลังอัดออกมาจากตำแหน่งของหัวเทียน เมื่อโชคร้ายมีน้ำเข้าไปในกระบอกสูบจะช่วยทำให้น้ำที่เข้าไปอยู่ภายในค่อยๆ ออกมา ใช้วิธีสตาร์ตเครื่องไล่น้ำ จนแน่ใจว่า ไม่มีน้ำอยู่ในกระบอกสูบแล้ว ให้ใส่หัวเทียนกลับเข้าที่เดิม ใช้โซแนคเพื่อไล่ความชื้นของหัวเทียน แล้วลองสตาร์ตเครื่องยนต์ดูอีกครั้ง แต่ถ้ายังสตาร์ตไม่ติด ก็โทรหารถสไลด์ ยกเข้าศูนย์หรือเข้าอู่เพื่อทำการแก้ไขต่อไป.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/