CODA รับรางวัลหนังยอดเยี่ยมออสการ์ 2022 ส่ง Apple TV+ เฉือน Netflix




หนังเรื่อง CODA ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 ประจำปี 2022 หรือ Academy Awards ไปเรียบร้อย คนที่ดีใจกว่าใครน่าจะเป็น ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอบริษัท แอปเปิล อิงก์ (Apple Inc.) ที่ยอมจ่าย 825 ล้านบาท เพื่อนำหนังเรื่องนี้มาฉายใน Apple TV+ และถือว่ามาแรงแซง Netflix ในสนามสตรีมมิงอีกด้วย

หลังประกาศผลรางวัลออสการ์ 2022 แล้ว ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอ Apple ก็ทวีตแสดงความยินดีกับทีมโปรดิวเซอร์หนังเรื่อง CODA ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 นี้ พร้อมชื่นชมว่าทีมผู้สร้างหนังรางวัลออสการ์ CODA ได้สร้างส่งผ่านเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้งและสวยงาม

CODA หรือชื่อไทยว่า โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง เป็นการเล่าเรื่องราวของเด็กสาวมัธยม รูบี้ รอสซี่ (แสดงโดย เอมิเลีย โจนส์) ที่เกิดและเติบโตในครอบครัวไร้เสียง ที่ทั้งพ่อแม่ และพี่ชายหูหนวก แม้จะมีหน้าที่ต้องดูแลทุกคนในครอบครัว แต่สาวน้อยรูบี้มีความพยายามทำตามฝันของเธอด้วยคือ การร้องเพลง เมื่อมีโอกาสได้ทุนจากสถาบันเบิร์กลีย์ รูบี้ต้องตัดสินใจระหว่างเดินตามความฝัน กับการดูแลครอบครัวไร้เสียงของเธอที่กำลังมีปัญหาการเงิน เป็นการเล่าเรื่องของหน้าที่ความรับผิดชอบ กับความฝันได้อย่างลงตัวและลึกซึ้ง

เรื่องราวของสาวน้อยที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในครอบครัว กับความฝันที่ต้องไปให้ถึง (ภาพ : Apple TV+)

ก่อนหน้านี้ Apple ได้ควักเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 825 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาท ต่อ ดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 28 มี.ค. 2565) เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ CODA มาฉายผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงระบบบอกรับเป็นสมาชิกใน Apple TV+ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

วันของทีม CODA กับ 3 รางวัลออสการ์ (ภาพ :Getty Images)

ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว เพราะนอกจาก CODA ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 ประจำปี 2022 นี้แล้ว ยังมีอีก 2 รางวัลจากหนังเรื่องนี้ คือบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay) โดย เซียน เฮเดอร์ และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) เป็นของ ทรอย คอตเซอร์ ที่แสดงเป็นพ่อในครอบครัวไร้เสียง นับเป็นหนังเรื่องแรกที่ฉายในแพลตฟอร์มสตรีมมิง และได้รางวัลใหญ่ระดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปเลย

ทิม คุก ปลื้มและชื่นชม CODA เพราะก่อนหน้านี้ได้ลงทุนซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนี้ (ภาพ :Getty Images)

ที่สำคัญไปอีกที่ทำให้ทิม คุกต้องดีใจมาก เพราะสตรีมมิงคู่แข่งอย่าง เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ก็ส่งเรื่อง “The Power of the Dog” แข่งในหมวดรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย แต่รางวัลเป็นของ CODA ส่วน “The Power of the Dog” ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) โดย เจน แคมเปียน ไปเป็นที่เรียบร้อย.