“พระสมเด็จ” ห้อยคอคุ้มภัย พุทธคุณแคล้วคลาดเมตตาแก่ผู้พบเห็น




ธรรมชาติ “มนุษย์” ย่อมมีความกลัวติดตัวมาตั้งแต่เกิด ทั้งกลัวภัยธรรมชาติ ภัยจากสิ่งอื่น…สัตว์ร้าย โรคร้าย ภูตผีปีศาจ ฯลฯ จึงได้มีการสร้างเครื่องยึดเหนี่ยวขึ้นมาเพื่อเป็นที่พึ่ง ปกป้องภัยอันตรายต่างๆ เป็นที่มาของการเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้าต่างๆ

แม้ว่าความเชื่อในกฎแห่งกรรม “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ดูจะเป็นเหตุและผล หากแต่ผู้คนไม่น้อยก็ยังมีความเชื่อ ศรัทธาเครื่องยึดเหนี่ยว พิธีกรรมต่างๆผสมผสาน สืบต่อความเชื่อและศรัทธากันมา

นับรวมไปถึง “วัตถุมงคล” หรือ “เครื่องรางของขลัง” ที่เกิดขึ้นมากมายทั่วฟ้าเมืองไทยหลายรุ่น หลายแบบ หลายสำนักนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มุ่งหวังบำรุงขวัญกำลังใจให้กับลูกศิษย์ลูกหาไม่น้อย กลายเป็นของเก่าที่มีคุณค่าอย่างมากล้น สื่อสะท้อนถึงความงดงามด้านศิลปะและความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์

“พระเครื่อง” หรือ “วัตถุมงคล” เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อ ศรัทธา ให้เกิดกำลังใจ ความปลอดภัยในชีวิต ผู้ที่นับถือบูชาเชื่อกันว่าจะเป็นสิ่งคุ้มครองให้ปราศจากภยันตรายทั้งมวล

รวมถึงก่อให้เกิดความเมตตากรุณาแก่ผู้พบเห็น

น่าสนใจด้วยว่า “นักสะสมพระเครื่อง” ไม่ได้มีแต่ชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น หากยังมีผู้คนอีกหลากหลายสาขาอาชีพ แม้แต่ระดับปัญญาชน… แพทย์ เภสัชกร วิศวกร สถาปนิก นักวิชาการ ครูบาอาจารย์ พ่อค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ นายทหาร นายตำรวจ ผู้พิพากษา อัยการ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักการเมือง ฯลฯ

ว่ากันด้วยมูลเหตุ อาจสนใจ ศรัทธา บูชาพระเครื่องแตกต่างกันไป หากแต่หัวใจสำคัญที่สะท้อนความจริงที่เป็นอยู่ก็คือ “ความเชื่อ” และ “ความศรัทธา” ยังคงมีอยู่แน่นหนาเข้มข้น ท่ามกลางความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยใหม่…

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ยังคงมีผล สามารถบันดาลให้เกิดสิริมงคล ความปลอดภัยในชีวิตได้

อัครพงศ์ อารีย์เกื้อตระกูล หรือ “นัท” วัย 34 ปี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เป็นอีกคนที่มีความเชื่อและศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อ “พระเครื่อง” ที่คล้องคอบูชาอย่างยิ่งยวด

วันวานที่ผ่านมา อัครพงศ์ เคยรับราชการตำรวจ ก่อนที่จะลาออกมาทำธุรกิจของครอบ ครัวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมความงาม สปา ผลิตภัณฑ์น้ำหอม และดูแลโรงงานปุ๋ย

แน่นอนว่าหากจะถามถึงงานอดิเรก ก็คงหนีไม่พ้นคำตอบที่ว่า… “ชอบสะสมพระเครื่อง พระบูชาครับ” ยังไม่ทันจะพูดจบก็หยิบพระที่คอออกมาให้ดู

ตั้งแต่ได้ “พระสมเด็จ” องค์นี้มาบูชา สิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้ก็บังเกิดผลขึ้นมากับตัวเองอยู่หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน โดยเฉพาะแคล้ว คลาดจากอันตรายต่างๆ โดยส่วนตัวเป็นคนใจร้อน แต่พอได้คล้องพระองค์นี้ทำให้ผมมีสติมากขึ้น ใจเย็นขึ้น และมีอีกหลายเหตุการณ์ที่พบเจอ…ราวปาฏิหาริย์

“พระองค์นี้ ผมได้มาจากเจ้าของโรงงาน ที่ท่านเก็บรักษาไว้มายาวนาน เคยไปขอเช่าบูชาอยู่หลายครั้ง แต่ทางเจ้าของก็ยังไม่ยอมสักที” อัครพงศ์ ว่า

“ผ่านไปราวเจ็ดปี เจ้าของโรงงานท่านนี้อยู่ที่ราชบุรีได้มาถูกใจพระของผม…หลวงปู่ศุข ที่เป็นองค์ดาราในหนังสือเล่มเก่าและปรากฏอยู่ในเว็บไซต์หลายๆที่เมื่อปี 2563 มูลค่าที่ผมตีราคาไว้ 1.8 ล้านบาท และผมได้วางเงินอีก 1.7 ล้าน ท่านถึงยอมให้ผมได้บูชาพระองค์นี้มา”

ประวัติที่มาที่ไปพระสมเด็จองค์นี้พอจะเล่าได้เพียงเท่านี้ ส่วนชื่อท่านเจ้าของจริงๆขอไม่เปิดเผยชื่อ นามสกุลจริงนะครับ

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดในชีวิต แม้ว่าจะผ่านมานานระยะหนึ่งแล้ว …แต่สิ่งที่ผมยังจำได้แม่นคือ ผมประสบอุบัติเหตุเฉียดตาย แต่ผมก็รอดมาได้โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย ในใจไม่คิดเป็นอย่างอื่นนอกจากพุทธคุณ “พระสมเด็จ” องค์นี้ องค์ที่แขวนติดคออยู่ตลอดเวลา

ผมจึงคิดว่าท่านคุ้มครองผมจริงๆ ช่วยทำให้ผมมีสติ และไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม

“ก่อนนอนหรือตอนเช้า ผมจะสวดมนต์ อาราธนาพระคาถาชินบัญชรของสมเด็จพุฒาจารย์โต หรือเวลาจะไปเจรจาการค้า ธุรกิจ ผมก็จะอาราธนาก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง”

อัครพงศ์ อารีย์เกื้อตระกูล เป็นคนรุ่นใหม่ แต่ก็ยอมรับตามตรงว่าเชื่อและศรัทธาในเรื่องนี้มาก “พระสมเด็จ” เป็นสุดยอดพระในดวงใจ เพราะมีประสบการณ์กับตัวเอง ใครที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธาในทำนองอย่างนี้ อยากหาเพื่อนคุยแลกเปลี่ยน แอดไลน์มาคุยกันได้ที่ ID line : 08-0915-3954

ด้วยหัวใจ “ชอบสะสมพระเครื่อง พระบูชา” จึงเข้าใจความชอบ ความศรัทธาของคนเล่นหา ถ้าหากมีผู้มีบุญมาขอเช่าบูชาและมีวาสนามากกว่าผมที่จะดูแลต่อก็ลองคุยกันดูครับ ผมว่ามูลค่าขึ้นอยู่กับความศรัทธามากกว่า เพราะพระองค์นี้เป็นพระกรุเก่า ปิดทอง ลงกรุ เดิมๆ ไม่หัก ไม่ซ่อม ซึ่งหายากมากอย่างยิ่ง

เช่นเดียวกับ “นางพญาเข่าตรง” พิษณุโลก ราคาเช่ามาจากที่เดียวกัน 1.5 ล้านบาท อาราธนาพร้อมกันบูชาตลอด ลงรัก น้ำเกลี้ยงเดิมๆครับ…ทั้งหมดเหล่านี้เป็นศรัทธาความเชื่อส่วนบุคคลทั้งสิ้น

ปิดท้ายด้วย “5 พระคาถา” ที่ว่ากันว่ามีพุทธคุณแคล้วคลาด คุ้มภัยยิ่ง พระคาถา “พระแก้วมรกต” ตั้งนะโม 3 จบ…วาละลุกัง สังวาตังวา วาละลุกัง สังวาตังวา วาละลุกัง สังวาตังวา…

พระคาถา “หลวงพ่อโสธร” นะโม 3 จบ นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาล วินาศสันติ…พระคาถา “หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” นะโม 3 จบ นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติ ภะคะวา

พระคาถา “หลวงปู่โต วัดระฆัง” นะโม 3 จบ อิติปิโสภะคะวา ยะมาราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มะระณังสุขัง อะระหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ”…พระคาถา “หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ” นะโม 3 จบ สัมมาอะระหัง จะเดินทางใกล้…ไกล ข้ามจังหวัด อาราธนาเป็นขวัญ…กำลังใจก่อนเดินทาง เตือนสติ…ไม่อยู่ในความประมาท

“ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” เชื่อไม่เชื่ออย่างไรโปรดอย่าได้ “ลบหลู่”.

รัก-ยม