Van Cleef & Arpels สร้อยคอสายซิปสุดหรู




แวนคลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ (Van Cleef & Arpels) นำผลงานสร้างสรรค์ที่ภูมิใจเข้า ร่วมแสดงผลงานในนิทรรศการ “โอโม ฟาแบร” (Homo Faber exhibition) ครั้งที่สอง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 เม.ย.จนถึง 1 พ.ค.2565 ณ มูลินิธิจอร์โจ ซินิ (Giorgio Cini Foundation) บนเกาะซานจอร์โจ มักโจเร ในเขตนครเวนิส ประเทศอิตาลี

นิทรรศการโอโม ฟาแบร (หรือโฮโม แฟเบอร์) จัดขึ้นโดยมูลนิธิหัตถ ศิลป์สร้างสรรค์ไมเคิลแองเจโล เพื่อเป็นเวทีสากลในการนำเสนอทักษะงานฝีมือหลากสาขา ซึ่งบรรดาหัตถกรช่างศิลป์ชายและหญิงจากทั่วทุกมุมโลกต่างมาเข้าร่วม เพื่อดำเนินการสาธิตแสดงสด นอกเหนือจากการใช้ระบบดิจิทัล และการแสดงผลงานหัตถศิลป์รุ่นต้นแบบ สำหรับนิทรรศการปีนี้ประ กอบไปด้วยศิลปินช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นเสมือนเวทีแสดงความสัมพันธ์เชื่อมต่อระหว่างหัตถกรรมญี่ปุ่นกับยุโรปบนพื้นที่จัดแบ่ง 15 แนวคิด ตลอดเวลากว่าสามสัปดาห์ ช่างฝีมือหัตถศิลป์ เมซง และนักออกแบบมากมายจะพากันมาร่วมนำเสนอความหลากหลายทางเทคนิค วัสดุ และทักษะความชำนาญเฉพาะสาขา อันเป็นที่มาของการสร้างสรรค์ความเป็นเลิศให้แก่เครื่องประดับตกแต่ง ตลอดจนของใช้ต่างๆ และเพื่อเป็นตัวแทนความสลับซับซ้อนอย่างงามสง่าท่ามกลางบรรดาผลงานสร้างสรรค์ Van Cleef & Arpels จึงนำหนึ่งในศิลปะเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นโจทย์ท้าทายความสามารถในเชิงเทคนิคอย่างใหญ่หลวงของเมซงมาร่วมจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ นั่นก็คือเครื่องประดับ “สร้อยสายซิป”

สร้อยคอสายซิปของ Van Cleef & Arpels หรือ Zip necklace ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดประดิษฐกรรมอันแยบยล และท้าทายขนบธรรมเนียมเครื่องประดับชั้นสูง รายละเอียดแต่ละแง่มุมหาได้เพียงสะท้อนถึงความนิยมชมชอบที่เมซงมีต่อเครื่อง ประดับ สามารถดัดแปลงรูปทรงหรือพลิกแพลงวิธีการสวมใส่ได้ในตัวเท่านั้น ทว่ายังเป็นตัวอย่างผลงานอันได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นด้วยเช่นกัน ปัจจุบันธรรมเนียมประดิษฐ์สร้อยคอสายซิปยังคงสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นผ่านการรังสรรค์ผลงานเอกลักษณ์ชิ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้ลูกเล่นเชิงสุนทรียศิลป์ร่วมกับวัสดุล้ำค่าอย่างหลากหลาย อีกทั้งยังโดดเด่นเป็นหนึ่งด้วยตัวเรือนโครงตาข่ายน้ำหนักเบาซึ่งมีความยืดหยุ่นระดับสูงเสมือนผ้าทอรองโลหะซิป ง่ายต่อการปรับ และดัดรูปทรงให้โอบกระชับสรีระของลำคอ หรือข้อมือได้อย่างง่ายดาย โดยในพื้นที่จัดแสดงฝีมือของ Van Cleef & Arpels ในครั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้พบกับสร้อยคอ อันเป็นผลงานร่วมสมัยสองเส้น ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ และส่งตรงมาจากกรุงปารีสเพื่อร่วมนิทรรศการครั้งนี้โดยเฉพาะ หนึ่งในนั้นอาศัยโครงสร้างตัวเรือนตาข่าย Ludo อันถือเป็นสัญลักษณ์ทางการออกแบบของเมซงมานับแต่ปี ค.ศ.1954 มาใช้ในหลายคอลเลกชัน ณ ปัจจุบัน.