Apple ปลดระวาง iPod อวสานเครื่องฟังเพลงพกพากว่า 21 ปี




แอปเปิล (Apple) ประกาศยุติการผลิต ไอพอด ทัช (iPod Touch) ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายในตระกูลเครื่องฟังเพลงพกพาที่บุกเบิกตลาดมากว่า 21 ปี หลังจากแนะนำ iPod รุ่นแรก ที่วางตลาดตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 2544

ด้วยเหตุผล ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ ของ Apple Phone และ Apple Watch ไปจนถึง iPad และ Mac รองรับการฟังเพลงมากมาย สามารถสตรีมเพลงจาก Apple Music อีกทั้งได้คุณภาพเสียงที่ทำให้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่ลงตัวหรือจะเก็บคลังเพลงไว้พกติดตัว จึงไม่จำเป็นต้องใช้ iPod

iPod ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกที่เพลิดเพลินกับเสียงเพลงเป็นเครื่องเล่น MP3 รุ่นแรกที่ใส่เพลงมากถึง 1,000 เพลงกับความจุขนาด 5 กิกะไบต์บนฮาร์ดดิสก์ ใช้การควบคุมแบบ Scroll Wheel และมีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นาน 10 ชั่วโมง หนักเพียง 184 กรัมเท่านั้น ราคาจำหน่าย ณ เวลานั้น 399 ดอลลาร์สหรัฐฯ

หลังจากนั้นได้มีพัฒนาการมาเป็น iPod mini เป็นเครื่องขนาดเล็กใช้ไมโครไดรฟ์ สำหรับเก็บข้อมูล iPod Photo เป็นรุ่นจอสี iPod shuffle ใช้หน่วยความจำแฟลชแทนฮาร์ดดิสก์ สามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ตยูเอสบี

ตามด้วย iPod nano ใช้หน่วยความจำแบบแฟลชเมมโมรีแทนฮาร์ด ดิสก์เหมือน iPod shuffle ส่วนรุ่น iPod Touch มีลักษณะคล้ายกับ iPhone กับหน้าจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว ใช้ท่องอินเตอร์เน็ตผ่านไว-ไฟผ่านซาฟารีเบราเซอร์ และดาวน์โหลดเพลงได้จาก

ไอทูนส์ (iTunes)

มาจนถึงปัจจุบัน Apple ระบุในเว็บไซต์ว่าจะยังคงจำหน่าย iPod Touch รุ่นที่ 7 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดและรุ่นสุดท้ายที่จะยังคงจำหน่ายต่อไปจนกว่าจะหมดสต๊อก เปิดตัวเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562 ใช้ชิป A10 Fusion เป็นอุปกรณ์ ที่มากกว่าการฟังเพลง รองรับเทคโนโลยีความ เสริม และ FaceTime แบบกลุ่ม ในราคาเริ่มต้น ที่ 6,900 บาทในรุ่น 32 กิกะไบต์ ไปจนถึง 14,900 บาทในรุ่น 256 กิกะไบต์

Apple ระบุว่า ท่ามกลางหลาก หลายวิธีอันน่าทึ่งในการเพลิดเพลินกับเสียงเพลงบนอุปกรณ์มากมาย ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆหลายรุ่นตั้งแต่ iPhone SE ไปจนถึง iPhone 13 Pro Max ล่าสุด กล่าวได้ว่า iPhone คืออุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีม Apple Music หรือการจัดเก็บคลังเพลงทั้งหมดเอาไว้พกติดตัว

เช่นเดียวกับ Apple Watch และ AirPods ที่ถือเป็นอุปกรณ์คู่ใจที่ลงตัวทำให้ผู้ใช้เข้าถึงเพลงได้จากข้อมือมากกว่า 90 ล้านเพลง โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 9,900 บาท สำหรับ Apple Watch SE ส่วน iPad มีราคาเริ่มต้นเพียง 11,400 บาท มาพร้อมชิปที่ทรงพลังยิ่งขึ้น หน้าจอขนาดใหญ่ และฟีเจอร์ล่าสุดของระบบปฏิบัติการ iPadOS.