โควิด-19 ทำคนอเมริกัน “ตาย” พุ่ง จากการดื่มและใช้ยาเกินขนาด




แอนน์ เคส และแองกัส ดีตัน นักวิจัย ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน รายงานตัวเลขการเสียชีวิตของคนอเมริกันจากการดื่มสุรา การใช้ยาเสพติดและการฆ่าตัวตาย ซึ่งพวกเขาเรียกว่าเป็น “ความตายที่สิ้นหวัง” ว่า มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักมาจากแรงกระตุ้นของการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจที่ลดลงเป็นเวลาหลายทศวรรษ โดยเฉพาะคนวัยกลางคนที่มีการศึกษาค่อนข้างต่ำ

ข้อมูลระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นกว่า 20,000 รายในช่วงแรกของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ยาเฟนทานิล ซึ่งเป็นฝิ่นสังเคราะห์ที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่ามอร์ฟีน 50 ถึง 100 เท่า เกินขนาด รวมถึงการใช้ยาเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจและตั้งใจด้วย ซึ่งเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกับการเปิดเผยของศูนย์ประเมินการเสียชีวิตด้วยยาเกินขนาดของสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 มีคนอเมริกันมากกว่า 100,000 คนเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด เพิ่มขึ้นจาก 70,000 กว่ารายก่อนหน้านี้ หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นสูงถึง 29%

นอรา โวลโคว์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติว่าด้วยการใช้ยาเสพติด ให้การเป็นพยานในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2564 ว่า การเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นบางส่วนยังเกี่ยวข้องกับการใช้ยาบ้า โคเคน ซึ่งอาจมีส่วนผสมของเฟนทานิลด้วย ขณะที่งานวิจัยของเคสและดีตันให้ข้อมูลว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคตับแข็งและโรคตับอื่นๆ ที่เกิดจากการใช้แอลกอฮอล์ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1990 โดยสูงสุดที่ 29,505 ราย ในปี 2020 อัตราการเสียชีวิตจากโรคตับที่เกี่ยวข้องกับการดื่มหนักถึง 9 ต่อ 100,000 คนในปี 2020 เพิ่มขึ้นจาก 4.3 ต่อ 100,000 ในปี 1999.