แบรนด์หรู หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) ไม่ตกเทรนด์ ขึ้นราคาทั่วโลก




หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) ภายใต้อาณาจักรธุรกิจแฟชั่นแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ LVMH ประกาศขึ้นราคาสินค้าของ หลุยส์ วิตตองทั่วโลก ทั้งกระเป๋า เครื่องประดับ และน้ำหอม หลังจากสินค้าแบรนด์หรูอื่นๆ อย่าง ชาแนล (Chanel) แอร์เมส (Hermès) ก็เพิ่งประกาศขึ้นราคาเมื่อไม่นานที่ผ่านมา

สื่อต่างประเทศต่างรายงานการประกาศของ LVMH กันอย่างคึกคักถึงเหตุผลการขึ้นราคาว่า เพราะต้นทุนสูงขึ้น ทั้งจากวัตถุดิบ การขนส่งแพงขึ้น จนดันเงินเฟ้อสูงขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งการขึ้นราคานี้ ครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ทั้งเครื่องหนัง กระเป๋า เครื่องประดับ และน้ำหอม ส่วนราคาจะขึ้นไปเท่าไรนั้น มีการคาดการณ์กันว่าอยู่ที่ 4-18 เปอร์เซ็นต์

หลุยส์ วิตตอง ไม่ใช่รายแรกที่ปรับราคา เพราะก่อนหน้านี้ ชาแนลได้ประกาศขึ้นราคาไปแล้วถึง 3-4 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2562 โดยเฉพาะกระเป๋าถือรุ่นที่ได้รับความนิยมตลอดกาลอย่าง Classic Flap Bag ที่ปรับราคาในสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 8,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนรุ่น 2.55 ที่ใหญ่กว่า มาอยู่ที่ 9,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ

หลักการที่ว่าเมื่อขึ้นราคาอาจทำให้กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์รู้สึกว่ามีมูลค่าสูงขึ้น และอยากได้มาครอบครอง ผลอาจไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับชาแนล เพราะในปี 2563 รายได้ของชาแนลทั่วโลกลดลง 18 เปอร์เซ็นต์ และกำไรลดลง 41 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแอร์เมส รายได้ลดลง 6 เปอร์เซ็นต์ และกำไรลดลง 15 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามมีนักวิเคราะห์ที่มองว่า ผลดีที่เกิดขึ้นอาจไปอยู่ที่ตลาดแบรนด์เนมหรูมือสอง โดยเฉพาะรุ่นที่หายาก และยังคงเป็นที่นิยมตลอดกาล

สำหรับหลุยส์ วิตตองยังต้องลุ้นว่า หลังประกาศขึ้นราคาแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ในปี 2564 ที่ผ่านมา มีรายได้ 71,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 44 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2563 และแบรนด์หรูอื่นๆ ในเครือของ หลุยส์ วิตตอง รายได้ก็เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไตรมาส 4 ของปีที่แล้วมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 42 เปอร์เซ็นต์ เพราะกลุ่มลูกค้าอั้นการช็อปปิ้งมานานในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก แต่เมื่อโลกกับโรคคงอยู่ด้วยกันอีกนาน ความต้องการก็กลับมา และนี่เองทำให้หุ้นของ LVMH เมื่อคืนวันอังคารที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาหลังมีข่าวขึ้นราคาหุ้นของ LVMH จึงเพิ่มขึ้น 3.58 เปอร์เซ็นต์

ขณะเดียวกันจากข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.พ. 2565 ของเว็บไซต์ฟอร์บส์ ที่จัดอันดับมหาเศรษฐีโลกเป็นประจำพบว่า มูลค่าทรัพย์สินของครอบครัว รวมของเบอร์นาร์ด อาร์โนลท์ (Bernard Arnault) วัย 72 ปี ชาวฝรั่งเศส ประธานและซีอีโอของหลุยส์ วิตตอง ยังสูงมาก จนอยู่ในตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 188,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นรองแค่ อีลอน มัสก์ วัย 50 ปี ชาวอเมริกัน เจ้าของอาณาจักรเทสลา ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 249,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ