เทรนด์เก๋า..ข้ามโลก เมื่อหัวใจไม่เคย “แก่”

จะ 18 หรือ 80 ก็เป็นเพียงตัวเลข ถ้าเราไม่สนใจจะนับหรือวิ่งตาม…เป็นที่ต้องยอมรับกันแล้วล่ะว่า เรากำลังเดินทางเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์สำหรับหลายประเทศ ไม่นับรวมญี่ปุ่นที่ล่วงหน้าไปก่อนหลายปี ตามด้วยเกาหลีใต้ สิงคโปร์ ที่สาวเท้าเข้าเส้นชัยกันไปติดๆ

สมัยก่อนอายุที่เพิ่มขึ้นของประชากรมักมาพร้อมกับภาระ การดูแล ปัญหาสุขภาพ และอื่นๆอีกมากมาย แต่ในยุคปัจจุบัน เมื่อเทคโนโลยีทางการแพทย์ทันสมัยมากขึ้น การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารในการดูแลตนเองของผู้สูงอายุมีมากขึ้น การอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ทั้งในเรื่องความบันเทิง คาเฟ่ การท่องเที่ยว ไปจนถึงแฟชั่น นิว นอร์มอล & journey สัปดาห์นี้มีตัวอย่างผู้สูงอายุ 3 คู่ จาก 3 ประเทศ ที่เป็นไอดอลด้านแฟชั่น ชนิดที่เรียกว่า หนุ่มๆสาวๆต้องทำตามกันเลยทีเดียว

ไปกันที่ญี่ปุ่นก่อน…หลายปีก่อน ซึโยชิ เซกิ (Tsuyoshi Seki ) กับ โทมิ เซกิ (Tomi Seki) สองสามีภรรยาวัยเกษียณชาวญี่ปุ่น ปฏิวัติตัวเองด้วยการลุกขึ้นมาแต่งตัวในชุดคู่สุดชิกที่แมตช์กันอย่างลงตัว กลายเป็นแฟชั่นแนวมินิมอล ชื่อ Bon-Pon ที่มีเอก ลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

คุณปู่ ซึโยชิ และ คุณย่า โทมิ เกษียณ อายุเมื่อ 5 ปีก่อน ทั้งสองตัดสินใจย้ายบ้านจากอาคิตะไปเซ็นได และเมื่อทั้งคู่มีเวลาว่างมากขึ้น จึงพากันออกเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และเลือกแต่งตัวด้วยชุดที่เข้าคู่กันเพื่อบันทึกรูปสวยๆเก็บไว้เป็นความทรงจำร่วมกัน

จากภาพความทรงจำที่อยากเก็บร่วมกัน ลูกสาวของคุณซึโยชิแนะนำให้คุณพ่อเปิด IG ส่วนตัวในชื่อ Bonpon 511 ซึ่งมาจากชื่อเล่นของทั้งสองคน และ 511 มาจากวันแต่งงานของทั้งคู่ นำรูปถ่ายมาแบ่งปันกันในโลกออนไลน์ เพียงแค่ 3 เดือน รูปของคุณซึโยชิและคุณโทมิมีผู้ติดตามทาง IG (อินสตาแกรม) ร่วมแสนคน และเพิ่มขึ้นเป็นเกือบหนึ่งล้าน Followers ในปัจจุบัน ไม่รวมการ

กลายเป็นประเด็นโด่งดังในสื่อต่างๆ การตีพิมพ์หนังสือของตัวเองถึง 2 เล่ม เพื่อเฉลิมฉลองชีวิตแต่งงาน และล่าสุดทั้งคู่ได้เปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับของตัวเอง โดยทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ของห้างดังอย่างอิเซตันด้วย

“มันสนุกมาก ทุกครั้งที่เราใส่ชุดคู่ที่แมตช์กัน และไม่ใช่แค่การเลือกเสื้อผ้าที่เข้าชุดกันเท่านั้น แต่เราพยายามเลือกชุดที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของเราด้วย” คุณซึโยชิบอก และภาพคู่ที่โพสต์ลงอินสตาแกรมพวกเขาจะติดแฮชแท็ก #whitehair #silver hair #over60 ด้วยเสมอเพื่อตอกย้ำว่า

คือคนสูงวัย (ผมขาวโพลนทั้งคู่) เป็นคนสูงวัยที่มีความสุข เป็นตัวของตัวเอง และเป็นผู้นำแฟชั่นด้วยตัวเองไม่ต้องให้ใครมากำหนดกฎเกณฑ์ ทุกอย่างเกิดจากความพอใจล้วนๆ ทั้งสองคาดหวังว่าความสำเร็จของพวกเขาจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคู่สามีภรรยาวัยเกษียณคู่อื่นๆ เห็นว่าการเกษียณอายุไม่ใช่การสิ้นสุด แต่เป็นการเริ่มต้นชีวิตที่สอง ที่ทุกคนควรได้ลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำในช่วงชีวิตแรกที่ต้องทุ่มเทให้กับการทำงานและดูแลครอบครัว

จากญี่ปุ่นบินลัดฟ้าต่อไปยังเบอร์ลิน Britt Kanja และ Günther Krabbenhöft นักแฟชั่นนิสต้าชาวเบอร์ลิน กลายเป็นไวรัลในวงการแฟชั่น โดยได้รับฉายาว่า Hipster Grandpa ด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นด้านการแต่งกาย

แม้ว่าจะไม่เคยเป็นสไตลิสต์หรือนักออกแบบแฟชั่นมาก่อน แต่ต้องยอมรับว่าทั้งสองสามารถนำพาตนเองไปโลดแล่นในวงสังคมได้อย่างโดดเด่น ด้วยการแต่งกายอันไร้ที่ติ ทั้งคู่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นคู่ที่แต่งกายแฟชั่นได้อย่างเยี่ยมยอดด้วยความเชี่ยวชาญในการผสมผสานและออกแบบเสื้อผ้าแบบไร้กาลเวลา ที่ไม่มีคำว่าตกยุค ถึงขนาดมีคำเปรียบเปรยความเก๋าของทั้งคู่ว่า เหมือนไวน์ชั้นดีที่ยิ่งเก่าก็ยิ่งมีรสละมุนมากขึ้นเรื่อยๆ

กลับมาที่เอเชีย สองสามปีก่อน Chang Wan-ji วัย 83 และ Hsu Sho-er วัย 84 เจ้าของกิจการ Laundry ในภาคกลางของไต้หวัน กลายเป็นกระแสไวรัลหลังจากที่พวกเขาเริ่มโพสท่าถ่ายรูปแฟชั่น โดยเริ่มจากการสวมเสื้อผ้าที่ลูกค้าร้านซักรีดทิ้งไว้ กระทั่ง รีฟ ชาง หลานชายวัย 31 ปีของทั้งคู่ เข้ามาช่วยเพิ่มสีสันของตายายในช่วงโควิด-19

ชางแนะนำให้คุณตา คุณยายเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดทันสมัย จากนั้นสร้างโมเดลสำหรับบัญชี IG ใหม่ ชื่อว่า @wantshowasyoung ซึ่งต่อมามีผู้ติดตามมากกว่า 700,000 คน จนกระทั่ง New York Times ยกย่องให้ทั้งคู่เป็นสปอตไลต์ระดับนานาชาติเป็น 3 คู่ 3 สไตล์ 3 ไอดอล…กับหัวใจที่ไม่มีวันหมดอายุ…