เจอกันปลายปีนี้ TOYOTA bZ4X สามห่วงทะลวงไฟฟ้า! เข้าไทยปลายปี มีดีที่ความอึด!




ในการแถลงข่าวยอดขายประจำปีของ Toyota Motor Thailand ผ่านทางออนไลน์ นาย โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มีการเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รถครอสโอเวอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสำหรับการผลิตออกขายในอนาคตล่าสุด bZ4X ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าคันนี้ จะถูกเปิดตัวในรูปแบบการผลิตจริงในประเทศไทย โดยคาดกันว่า น่าจะเป็นช่วงปลายปี นับเป็นข่าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของ Toyota ในการปรับเปลี่ยนพลังงานขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ไปเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า bZ4X เป็นรถไฟฟ้าอเนกประสงค์ขนาดเล็ก และเป็นโมเดลแรกสุดของยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ย่อย bZ ของ Toyota สำหรับรถไฟฟ้า Toyota รุ่นแรกที่ออกขาย (ในตลาดโลก) จะมีทั้งหมดเจ็ดรุ่น ซึ่งอยู่ในแผนงานสำหรับการเปิดตัวในปีนี้ bZ4X มีขนาดประมาณ RAV4 ใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ของ Toyota ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับใช้ในยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ทั้งหมดของโครงสร้างรถดีไซน์ให้เข้ากับการใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ Toyota ยังส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายรุ่นต่อไปในอนาคต

bZ4X ซึ่งมีแผนที่จะวางจำหน่ายในไทยช่วงปลายปี 2022 มีให้เลือกสองรุ่น ขึ้นอยู่กับจำนวนมอเตอร์ไฟฟ้า รุ่นพื้นฐานขับเคลื่อนล้อหน้า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงตัวเดียว ที่ติดตั้งบนเพลาหน้า มีกำลังสูงสุด 201 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) และแรงบิดแบบฉับพลันทันทีในระดับ 195 ปอนด์-ฟุต (265 นิวตัน-เมตร) รุ่น FWD ของ Toyota bZ4X สามารถเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่ง หรือ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.4 วินาที และเข้าถึงความเร็วสูงสุดที่ 99 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไปให้เร็วกว่านั้นก็ได้ แต่มันจะรับประทานแบตเตอรี่ วิศวกรของ Toyota จึงจำกัดความเร็วของ bZ4X ไว้แค่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

งานตกแต่งภายในสื่อให้เห็นถึงคำว่า ‘Lagom’ – ภาษาสวีเดนแปลว่า ‘พอดี’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสะดวกสบาย พื้นที่ใช้สอย และบรรยากาศโทนอบอุ่น Toyota เพิ่มความน่าใช้ ด้วยผ้าหุ้มเบาะแบบทอเนื้อนุ่ม รายละเอียดการตกแต่งแบบซาติน และตัวเลือกหลังคากระจกแบบพาโนรามา แผงหน้าปัดมีรูปร่างเพรียวบางและวางอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ แผงหน้าปัดและจอแสดงข้อมูลแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ตั้งอยู่ตรงบริเวณมุมมองของผู้ขับ สามารถมองเห็นจอแสดงผลได้ โดยใช้การเคลื่อนไหวของดวงตาเพียงเล็กน้อย ซึ่งสนับสนุนหลักการ “มืออยู่บนพวงมาลัย ดวงตาอยู่บนท้องถนน”

Toyota bZ4X Electric Crossover รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อใช้ มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว หนึ่งตัวสำหรับเพลาหน้า อีกตัวขับเคลื่อนเพลาหลัง มอเตอร์คู่ที่แยกกำลังกันปั่นล้อ มีม้าให้ใช้ 215 ตัว (160 กิโลวัตต์) และแรงบิด 248 ปอนด์-ฟุต หรือ 336 นิวตันเมตร Toyota กล่าวว่า แรงบิดดังกล่าวเพียงพอที่จะสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.7 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรุ่นเริ่มต้นที่โดนจำกันเอาไว้แค่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สิ่งหนึ่งที่เป็นไดนามิกส์สำคัญ และควรค่าแก่การชี้ให้เห็นก็คือรุ่นท็อปของ bZ4X มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่พัฒนาร่วมกับ Subaru

ไม่ว่าจะเลือกรุ่นที่ถูกกว่าหรือแพงกว่า ทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 71.4 kWh พร้อมระบบระบายความร้อนหรือหล่อเย็นด้วยน้ำ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าจาก Toyota ในรุ่นพื้นฐาน เมื่อชาร์จไฟจนเต็มแบตเตอรี่ ทำระยะทางได้ 280 ไมล์ หรือกว่า 450 กิโลเมตร น้อยกว่า ORA Good Cat นิดหน่อย ลูกค้าที่กำลังเล็งเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า คาดหวังตัวเลขที่มากกว่านี้ในระดับ 500 กิโลเมตร Toyota อ้างว่าแบตเตอรี่จะไม่สูญเสียสมรรถนะมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ในการขับขี่ 10 ปี หรือที่ระยะทาง 149,130 ไมล์ (240,000 กม.) แล้วแต่ว่าจะถึงอย่างใดก่อน

แบตเตอรี่ของ bZ4X มีระบบความปลอดภัยครบ เช่น ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า การจ่ายกระแสไฟ และอุณหภูมิที่ระดับแต่ละเซลล์ ช่วยให้แบตเตอรี่มีความคงทนในการใช้งาน หากระบบตรวจพบการสะสมความร้อนอย่างผิดปกติ ระบบระบายความร้อนจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ bZ4X มีระบบที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับความผิดพลาด ป้องกันการเสื่อมสภาพของวัสดุและกระบวนการผลิตมีความปลอดภัย การปิดผนึกเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่แบตเตอรี่

เมื่อออกสู่ตลาด Toyota bZ4X Electric Crossover จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Toyota ที่ติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า steer-by-wire ซึ่งเป็นออปชันหรืออุปกรณ์เสริม โดยไม่มีการเชื่อมต่อทางกลไกระหว่างพวงมาลัยและยาง วิศวกรของ Toyota ให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งมอบความรู้สึกของพวงมาลัยที่ดีขึ้น และลดอาการสั่นสะเทือนไปยังพวงมาลัย bZ4X กับระบบบังคับเลี้ยวแบบใหม่ ‘One Motion Grip’ พวงมาลัยทำงานโดยไม่มีการเชื่อมต่อทางกลระหว่างพวงมาลัยและล้อหน้า ล้อถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามอินพุตจากพวงมาลัย ระบบบังคับเลี้ยวแบบใหม่ที่ช่วยทำให้ประหยัดพื้นที่ ทำให้รถมีพื้นที่วางขามากขึ้น ตำแหน่งที่นั่งที่ดีขึ้น และการเข้าและออกที่ง่ายขึ้น One Motion Grip ทำให้การบังคับทิศทางของ bZ4X ทำได้ง่ายขึ้น และ ‘Full-lock’ สามารถทำได้ด้วยการเลี้ยวเพียง 150 องศา เมื่อเปิดตัว เทคโนโลยีใหม่นี้ จะวางจำหน่ายเฉพาะในบางตลาด

Toyota Safety Sense เจเนอเรชัน 3
bZ4X พร้อม Toyota Safety Sense เจเนอเรชันที่ 3 เป็นระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับแบบใหม่ มีคุณสมบัติใหม่ที่ได้รับการปรับปรุง เช่น ช่วงการตรวจจับที่ขยายกว้างออกไปมากกว่าเดิม ซึ่งป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายยิ่งขึ้นของอุบัติเหตุทั่วไป ระบบมัลติมีเดียใหม่พร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบออนไลน์หรือ ‘over-the-air’ (OTA) มีให้ใช้งานเช่นกัน

Toyota Motor Thailand น่าจะเปิดเผยรายละเอียดของ bZ4X ทั้งรุ่นและราคา การส่งมอบใกล้กับวันที่วางขาย โดย bZ4X จะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ตั้งแต่กลางปี 2022 สำหรับประเทศไทย bz4X คาดว่า จะมีการเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 หรืออาจเร็วกว่านั้นก็มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/