สัมผัสแรก ทดสอบ MITSUBISHI XPANDER รุ่นปรับโฉม 2022




หลังจาก Toyota Motor Thailand นำเข้ารถยนต์ครอบครัวประกอบในอินโดนีเซียอย่าง New Veloz ซึ่งเปิดตัวช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ล่าสุด ค่าย Mitsubishi ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เตรียมปั้นตัวขายอย่าง MPV รุ่นปรับโฉม Xpander 2022 รถอเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง ที่ผลิตในแดนอิเหนาเช่นกัน การมาถึงของ Xpander รุ่นปรับโฉมใหม่ประจำปี 2022 สื่อให้เห็นถึงตลาดรถครอบครัวขนาดกะทัดรัด ที่แม้จะมียอดขายไม่มาก แต่ยังคงได้รับความนิยมอยู่พอสมควร ทำให้ Xpander ในไทย สามารถเดินต่อได้ด้วยรถรุ่นปรับโฉมที่เข้ามาเปิดตัวภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมแต่ก็ยังไม่มีการประกาศราคา จากการมาถึงของรถคู่แข่งอย่าง Toyota Veloz

Mitsubishi Xpander 2022 เวอร์ชันปรับโฉม เพิ่มความสดใหม่ของรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังคล้ายกับรถรุ่นแรกที่ออกขายเมื่อ 4 ปีก่อน ความเปลี่ยนแปลงหลักๆ ของรถรุ่นปรับโฉม ที่ไม่ใช่การเปลี่ยนโฉมเป็นรถรุ่นใหม่ เร่ิมจากไฟหน้า LED แบบใหม่ เชื่อมโยงกับกระจังหน้าแบบ Dynamic Shield สอดรับกับไฟหน้าและไฟตัดหมอกด้วยเหลี่ยมมุมที่เป็นสไตล์การออกแบบของ Xpander ชุดกระจังใช้ขอบพลาสติกโครเมียมสีเงิน ตัวกระจังใช้พลาสติกสีดำเงา ช่องรับอากาศบริเวณกึ่งกลางด้านล่างของกันชนหน้าแบบรังผึ้ง ไฟหน้าไฟเลี้ยว และไฟหรี่กลางวัน LED ไฟต่ำและไฟสูงรูปทรงตัว T รวมถึงไฟตัดหมอกหลอด LED ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นในตอนกลางคืน และเมื่อขับท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่ดี

บั้นท้ายปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ เช่น กันชนหลัง ไฟท้ายแบบใหม่ ใช้หลอดไฟแบบผสม ทั้งหลอด LED และหลอดไฟแบบปกติ มิติตัวถังของรถ Xpander 2022 มีความยาว 4,495 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร สูง 1,750 มิลลิเมตร เพื่อทำให้ห้องโดยสารมีความโปร่งโล่งในแบบเอ็มพีวี ระยะห่างของฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 220 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 45 ลิตร น้ำหนัก 1,290 กิโลกรัม ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ยาง bridgestone ecopia 205/55R17 91V

ภายในตกแต่งด้วยรูปแบบใหม่ เบาะหนังสังเคราะห์สีดำ เบาะสามารถพับได้อย่างหลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ เบาะแถวกลางสามารถพับเพื่อเปิดพื้นที่เข้า-ออกจากห้องโดยสารให้กับเบาะแถวที่สาม ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับครอบครัวขนาดกลาง เบาะแถวที่สองออกแบบมาให้นั่งได้สามคน แต่การนั่งโดยสารแบบสองคนจะสบายตัวกว่ามาก สำหรับเบาะแถวที่สามเหมาะสำหรับเด็กตัวเล็กๆ มากกว่าผู้ใหญ่ตัวสูง เนื่องจากพื้นที่วางเท้ามีไม่มาก เบาะแถวที่สามยังพับราบกับพื้นได้เพื่อเปิดพื้นที่เก็บสัมภาระให้กว้างมากยิ่งขึ้น Mitsubishi Xpander เน้นความอเนกประสงค์ของภายในด้วยการเพิ่มกล่องเก็บของด้านหน้าและบริเวณแผงข้างประตู จุดชาร์จไฟ 3 ตำแหน่งทั้งหน้าและหลัง ระบบแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กล่องเก็บรองเท้าบริเวณใต้ที่เก็บสัมภาระฝาท้าย ช่องแอร์บนหลังคาพร้อมปุ่มปรับระดับความแรงของพัดลมแอร์สำหรับเบาะแถวที่สองและสาม 

จอภาพมอนิเตอร์กลางของระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว สั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่หน้าจอภาพ รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แผงควบคุมระบบปรับอากาศเปลี่ยนเป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ เปลี่ยนพวงมาลัยใหม่ เบรกมือเปลี่ยนมาเป็นแบบเบรกมือไฟฟ้า มี Auto Brake Hold มาให้ใช้งาน ช่องเสียบชาร์จโทรศัพท์มีให้เลือกใช้ทั้ง USB Type-A และ Type-C

พวงมาลัยสามก้านแบบใหม่
พวงมาลัยสามก้านหุ้มหนังแบบใหม่ เน้นความกระชับ คอนโทรลได้ง่าย ก้านวงด้านซ้ายติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชันใช้ควบคุมโหมดต่างๆ ของจอภาพมอนิเตอร์ สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง สวิตช์ระบบสั่งงานด้วยเสียง สวิตช์รับหรือวางสายโทรศัพท์บลูทูธ ส่วนก้านวงพวงมาลัยด้านขวาเป็นที่อยู่ของสวิตช์ปรับตั้งระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

ซุ้มเกียร์อัตโนมัติ
เกียร์อัตโนมัติ CVT ใช้พลาสติกสีดำแบบเปียโนแบล็ก คันเกียร์และคันเบรกมือหุ้มหนัง สวิชต์เบรกมือไฟฟ้า สวิชต์ auto brake hold ช่องวางแก้วน้ำพร้อมที่เก็บของบริเวณคอนโซลกลาง Mitsubishi Xpander เป็นรถอเนกประสงค์ไซส์เล็กอีกรุ่นที่มีช่องเก็บของและที่วางแก้วทั่วทั้งห้องโดยสาร เพื่อคอยอำนวยความสะดวกยามเดินทางไกล เกียร์ CVT ใหม่เข้ามาแทนที่เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดรุ่นเก่า ตอบสนองต่อการทดกำลังได้ดีกว่าเดิม  

มาตรวัด
มาตรวัดความเร็วและมาตรวัดรอบเครื่องยนต์คั่นกลางด้วยจอแสดงข้อมูล mid multi function display ขนาด 4.2 นิ้ว ทั้งมาตรวัดรอบและวัดความเร็วออกแบบให้อ่านค่าได้ง่าย ส่วนจอแสดงผลตรงกลางแจ้งข้อมูลที่สำคัญ เช่น ตำแหน่งเกียร์ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยกิโลเมตรต่อลิตร อุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ ระดับของเชื้อเพลิงในถังและคำนวณเชื้อเพลิงที่เหลือต่อระยะทางที่วิ่งถึง ห้องโดยสารเพิ่มวัสดุป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก เพื่อปรับให้มีความเงียบมากกว่าเดิม ลดเสียงการทำงานของยางและเสียงลมปะทะ

Mitsubishi Xpander รุ่นปรับโฉมประจำปี 2022 ยังไม่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่เปลี่ยนชุดส่งกำลังใหม่ จากเกียร์ออโต้ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ 4 สปีดที่ค่อนข้างโบราณ มาเป็นเกียร์สายพานพูเล่ย์ CVT สำหรับเครื่องยนต์เดิม เบนซินแถวเรียงตัวเล็กกะทัดรัดแบบ 4 กระบอกสูบ 4 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC เป็นเครื่องยนต์รหัส 4A91 4 สูบ ฝาทวินแคม DOHC 16 วาล์ว ปริมาตรความจุ 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 77.4 มิลลิเมตร ช่วงชัก 77.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 กำลังสูงสุด 104 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังที่คาดว่าน่าจะทำให้อืดพอสมควรด้วยการใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT เครื่องยนต์วางตามขวางด้านหน้า ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า ช่วงล่างเทียบกับตัวเก่าถือว่าทำได้ดีขึ้น ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลงใหม่ ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม ลดอาการโคลงตัว เนื่องจากมีการเปลี่ยนโช้คและสปริงใหม่ ใช้โช้คอัพที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ โซ่สายพานไทม์มิ่ง อ่างน้ำมันเครื่องอัลลอย ระบายความร้อนได้ดี ลดแรงสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์ ล้อและยางของ Mitsubishi Xpander รุ่นปรับโฉม จากล้อ 16 นิ้ว ขยับเป็นล้อใหม่ขอบ 17 นิ้ว ล้ออัลลอยทูโทนสีดำสลับสีเงิน ไซส์ 215/55R17 ความสูงจากเดิม 205 มิลลิเมตร ขยับขึ้นเป็น 220 มิลลิเมตร

จากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าอำเภอไทรโยคและทองผาภูมิ Mitsubishi Xpander รุ่นปรับโฉมให้ความรู้สึกถึงการเป็นรถครอบครัวที่มีสมาชิกร่วมเดินทางไปด้วยเกือบเต็มคัน การปรับเปลี่ยนโช้คอัพที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับทั้งผู้โดยสารและสัมภาระ ถ้าขับคนเดียวตัวเปล่าๆ ไม่ได้บรรทุกมาเต็มพิกัด ช่วงล่างออกอาการแข็งขึ้นแต่ไม่ได้มากมายอะไรจนทำให้นั่งไม่สบาย จุดที่ทำออกมาได้ดีก็คือ เบาะคู่หน้าทั้งของคนขับและผู้โดยสารสอดรับกับสรีระ นุ่มนั่งสบายแต่ไม่ใช่หนังแท้เพราะเป็นหนังสังเคราะห์ ขับทางไกลก็ไม่ได้ปวดเมื่อยอะไร เนื่องจากตัวเบาะและวัสดุที่รองรับอยู่ภายในที่เน้นความนุ่มนิ่มนั่งยาวๆได้ไม่ปวดเมื่อย เบาะปรับด้วยมือ เลื่อนเดินหน้าถอยหลังได้มากพอสมควร พวงมาลัยปรับสี่ทิศทาง เบาะแถวที่สองปรับพับได้อย่างหลากหลายเพื่อเปิดพื้นเข้าออกให้กับเบาะแถวที่สามแบบสองที่นั่งซึ่งเหมาะกับเด็กตัวเล็กๆ มากกว่าจะให้ผู้ใหญ่ตัวโตลงไปนั่ง ตำแหน่งท่านั่งคนขับค่อนข้างสูงและปรับให้ต่ำไม่ได้ซะด้วย! แต่ปรับให้จุดที่รองต้นขายกขึ้นเล็กน้อยได้เพื่อความสบายตัว

Mitsubishi Xpander เอมพีวีครอสโอเวอร์ที่เหมาะสมกับการเดินทางในย่านความเร็ว 110-120 กิโลเมตร ขับเร็วๆย่าน 140 ยังทรงตัวได้ดี แต่ผมไม่ค่อยชอบสัมผัสของเบรก เบรกหลังแบบดรัมให้ความรู้สึกมั่นใจน้อยกว่าดิสก์เบรกสี่ล้อ โดยเฉพาะทางที่เป็นเนินเขาแถวๆ ไทรโยคไปจนถึงทองผาภูมิ พวงมาลัยไฟฟ้าอัตราทดแปรผัน ทำงานไปตามความเร็ว โดยจะเริ่มต้นการหน่วงน้ำหนักเมื่อความเร็วทะลุผ่าน 70 กิโลเมตร ระยะฟรีตรงกลางของพวงมาลัยสูสีกับ Toyota Veloz เนื่องจากเป็นรถครอบครัว จึงโดนปรับพวงมาลัยไม่ให้ตอบสนองไวเกินไป ซึ่งรถอาจเกิดอาการวูบๆ วาบๆ ได้ถ้าเซตพวงมาลัยให้รวดเร็วแบบรถสปอร์ต ความเป็นรถบ้านแบบขับเรื่อยๆ พวงมาลัยของมันก็มีความแม่นยำใช้ได้ แต่อาการในโค้งพอขับเร็วๆ แล้วรู้สึกได้ว่าการถ่ายเทน้ำหนักยังคงเป็นรอง Veloz อยู่นิดๆ 

เครื่องยนต์ 4A91 4 สูบ ฝาทวินแคม DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี กำลังสูงสุด 104 แรงม้า กระฉับกระเฉงใช้ได้แต่เกียร์ CVT ต้องเร่งรอบสูงหากอยากไปเร็วๆ แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากมายอะไร การกะระยะแซงต้องเผื่อกันพอสมควร แต่ถ้าขับเรื่อยๆ รอบเครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 รอบต่อนาทีก็จะมีอัตราสิ้นเปลืองในระดับ 12 กิโลเมตรต่อลิตรบนเส้นทางภูเขาที่ผมมักใช้คันเร่งหนักๆ ไปตลอดทาง เกียร์ CVT เมื่อโดนคิกดาวน์เร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้า ในรอบสูงเสียงเครื่องยนต์ก็จะดังเข้ามาให้ได้ยินทันที เมื่อยกคันเร่งกลับมาใช้รอบเครื่องยนต์เดินทางที่ 2,000 รอบต่อนาที เสียงเครื่องยนต์เงียบใช้ได้ แต่มีเสียงของยางและเสียงลมที่ปะทะกับตัวถังที่เพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆ ไปตามสปีดความเร็ว การเก็บเสียงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ได้เงียบกริบอย่างที่บอกกันไว้แต่แรก 

ความสูง 220 มิลลิเมตร บวกยางหน้ากว้าง 205 การใช้ความเร็วสูงในโค้งต้องระวังแต่งองค์ทรงเครื่องกันให้ดีๆ โดยลดความเร็วลงมาให้พอดีกับสภาพของโค้งก็จะสามารถควบคุมเจ้า Mitsubishi Xpander ได้อย่างง่ายดาย ขับในเมืองคล่องตัวใช้ได้ การขับถอยหลังเพื่อจอดในที่คับแคบมีกล้องมองหลังคอยช่วยเป็นลูกตาดวงที่สามทำให้มองเห็นภาพด้านหลังผ่านจอมอนิเตอร์กลางพร้อมเส้นระนาบกะระยะที่ช่วยทำให้ถอยหลังได้ง่ายขึ้น สำหรับการทรงตัวในย่านความเร็วสูง วิ่งทางตรงๆ เรียบๆ ทะลุ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ยังทรงตัวได้ดี แต่อย่างที่บอกว่าควรจะลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง ก็จะช่วยทำให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ช่วงล่างแข็งขึ้นแต่ไม่ได้แข็งจนกระด้าง เซตมาให้นั่งขับหรือนั่งโดยสารได้สบายตัวในย่านความเร็วเดินทางที่ถูกกฎหมาย ส่วนความเร็วสูงก็ยังถือว่าไม่ขี้เหร่นอกจากการขับเข้าโค้งที่ควรจะลดความเร็วลงมาบ้าง ไม่ใช่กดกันมิดด้ามในโค้งมุมแคบแล้วทำให้เข้าโค้งลำบาก จากการใช้ความเร็วที่ไม่สัมพันธ์กับความสูงของตัวรถ ซึ่งเป็นรถแนวบ้านๆ ของครอบครัวไม่ใช่รถซิ่งสำหรับขาแรง อาการโคลงตัวเกิดขึ้นบ้างเมื่อเจอกับถนนที่ไม่เรียบแต่ต้องวิ่งมาเร็วถึงจะรู้ รวมถึงการถ่ายเทน้ำหนักในโค้งที่ยังต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากสัดส่วนความสูงที่มากกว่ารถเก๋งเล็กทั่วๆ ไป จุดเด่นของ Mitsubishi Xpander รุ่นปรับโฉม อยู่ที่พวงมาลัยไฟฟ้า แม้จะไม่ได้แม่นยำมากมายอะไร แต่พวงมาลัยของมันมีสัมผัสที่ดีในด้านของการเซตน้ำหนักที่ออกมาในแนวไม่เบาหรือหนักเกินไป พวงมาลัยที่มีน้ำหนักพอดิบพอดีกับความเร็วในขณะนั้นๆ ช่วยทำให้ควบคุมได้ง่าย ขับในย่านความเร็วสูงก็ไม่เบาจนน่ากลัว และไม่ต้องคอยแต่งทิศทางหรือต้องคอยประคองพวงมาลัยขยับไปมาตลอดทาง ทำให้ความเครียดในการควบคุมลดลงไปพอสมควรจากน้ำหนักของพวงมาลัย ถือว่าเป็นชุดบังคับเลี้ยวที่จูนออกมาใช้ได้ สูสีกับ Veloz

อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ที่ 15.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดไม่มีถนนที่โล่งพอจะให้กดแช่กันยาวๆ เพื่อดูตัวเลขความเร็วสูงสุด ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ขับแบบเรื่อยๆ ได้ 12.3 กิโลเมตรต่อลิตร ขับแบบรีบๆ กดคันเร่งต่อเนื่องหล่นลงมาเหลือ 11 กิโลเมตรต่อลิตรถือว่ารับได้ เครื่องยนต์ 4A91 แบบแถวเรียง 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว ตัวเล็กและมีน้ำหนักเบา ไม่เหมาะกับพ่อบ้านเท้าโหดแต่เหมาะกับแม่บ้านที่ชอบขับเรื่อยๆ ไม่เน้นเร็ว เมื่อขับโดยใช้ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทรงตัวหรือการบังคับควบคุม ส่วนความเร็วสูงนั้น เครื่องยนต์ต้องใช้กำลังเบ่งออกมาโดยลากกันจนชน 6,000 รอบทุกเกียร์ถึงจะเห็นดำเห็นแดงว่า Mitsubishi Xpander เกียร์อัตโนมัติสายพาน CVT ทำงานเรื่อยๆ มาเรียงๆ ผมชอบเกียร์โบราณ 4 สปีด ในรุ่นก่อนปรับโฉมมากกว่าเพราะขับมันกว่านี้จากการทดกำลังของเฟืองเกียร์ที่กระชับมากกว่าเกียร์ CVT 

การประกาศราคาค่าตัวของ Mitsubishi Xpander รุ่นปรับโฉมต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากการปรากฏตัวของ Toyota Veloz พร้อมราคาที่ค่อนข้างโดนใจคนไทย Mitsubishi เองก็มักขายรถแบบตัดราคาคู่แข่งโดยมีการกดไม่ให้รถตัวเองมีราคาสูงกว่ารถคู่แข่ง แต่ความแรงของ Veloz ทำให้ Xpander รุ่นปรับโฉมออกตัวได้ยากกว่าเดิม ต้องใช้ราคาที่ถูกกว่า Veloz เท่านั้นถึงจะพอลืมตาอ้าปากได้ สรุป Xpander รุ่นปรับโฉมที่รอการประกาศราคาอย่างเป็นทางการในช่วงก่อนวันสงกรานต์ เป็นรถครอบครัวแบบ 7 ที่นั่ง แต่นั่งสี่คนจะสบายตัวมากกว่า รวมถึงถ้าได้ดิสก์เบรกหลังก็จะสร้างความมั่นใจได้ดีกว่านี้ ยังงงว่านี่รุ่นปรับโฉมแล้ว และเบรกก็ควรจะเป็นดิสก์สี่ล้อแล้วมั้ยครับ? สุดท้าย มันก็ยังเป็นรถใหม่ที่น่าใช้งาน ถ้าตั้งราคาใหม่ให้พอรับได้ ไม่แพงจนเกินไป ก็น่าจะขายได้ แต่คงไม่ดีเหมือนตอนเปิดตัวรุ่นก่อนปรับโฉมละครับ.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/