วัคซีนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ นอกเหนือจากวัคซีนโควิด-19




วัคซีน คือ สารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อต่อต้านการเกิดโรค โดยส่วนใหญ่สารจะมาจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือพิษของเชื้อ มาดูกันว่าวัคซีนที่คนท้องควรฉีดระหว่างตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง

วัคซีนคนท้อง ปลอดภัย

วัคซีน แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ได้แก่

  1. ท็อกซอยด์ (Toxoids) เป็นวัคซีนที่ได้จากการนำเชื้อโรคมาทำลายความเป็นพิษให้หมดไป แต่ยังมีคุณสมบัติในการนำมากระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี เช่น พิษจากโรคคอตีบ พิษจากโรคบาดทะยัก เป็นต้น
  2. วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Killed Vaccine) เป็นวัคซีนที่ได้จากการนำเชื้อโรคมาทำให้ตาย อาจใช้เชื้อทั้งตัว หรือสกัดเอาบางส่วนของเชื้อมาทำวัคซีน เช่น วัคซีนไอกรน วัคซีนไข้หวัดตามฤดูกาล วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด วัคซีนตับอักเสบบี เป็นต้น
  3. วัคซีนชนิดเชื้อเป็น (Live Attenuated Vaccine) เป็นวัคซีนที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเชื้อโรค แล้วนำเชื้อโรคมาทำให้อ่อนแรงลงจนไม่สามารถก่อโรคได้ แต่ยังมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ เช่น วัคซีนหัดเยอรมัน คางทูม เป็นต้น

ปัจจุบันมีวัคซีนอยู่หลายชนิดด้วยกันซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกน้อย โดยปกติคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกรายควรได้รับวัคซีนตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์แต่มีบางรายที่ไม่เคยรับวัคซีนมาก่อนที่จะตั้งครรภ์ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดโรคได้

เหตุใด วัคซีนจึงมีความสำคัญสำหรับหญิงตั้งครรภ์?

วัคซีนมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ จริงๆ แล้ววัคซีนมีความสำคัญกับคุณแม่ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เพราะก่อนการตั้งครรภ์คุณแม่ควรได้รับวัคซีนที่สำคัญสำหรับการตั้งครรภ์คือ “วัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน” เพื่อป้องกันอันตรายต่อทารกในครรภ์ในอนาคตซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก

หัดเยอรมันน่ากลัวเพียงใดสำหรับทารกน้อย

หัดเยอรมัน เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส หากเป็นในระยะตั้งครรภ์อาจส่งผลให้ทารกเกิดความพิการได้ เมื่อทารกมีการติดเชื้อไวรัสจะทำให้การแบ่งตัวของเซลล์ต่างๆ ของทารกในครรภ์หยุดลง หรือทำให้อวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ มีขนาดเล็ก และมีการสร้างเซลล์น้อยกว่าปกติ การสร้างอวัยวะช้า และผิดปกติไป ส่งผลทำให้มีอวัยวะที่ผิดปกติเพื่อความปลอดภัยของว่าที่คุณแม่และทารกในอนาคต หลังฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันแล้ว ควรคุมกำเนิดที่ต้องให้ผลแน่นอนต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากเชื้อไวรัสหัดเยอรมันที่นำมาผลิตเป็นวัคซีนเป็นเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถูกทำให้อ่อนแรงลง เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายจึงทำให้ร่างกายทำการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาภายใน 60 วัน และเชื้อไวรัสจึงจะถูกทำลายไป ภูมิคุ้มกันนี้จะคงอยู่นานหลายปีและเมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายอีก ระบบภูมิคุ้มกันจะสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ จึงไม่ก่อให้เกิดโรค และคุ้มครองได้ตลอดชีวิตของคุณแม่

วัคซีนที่คนท้องควรฉีดระหว่างตั้งครรภ์

  1. วัคซีนบาดทะยัก องค์การอนามัยโลกได้จัดให้เป็นวัคซีนที่คุณแม่ควรฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อบาดทะยักในทารกแรกเกิด การฉีดวัคซีนบาดทะยักเป็นวัคซีนเชื้อตายประกอบไปด้วยทอกซอยด์บาดทะยัก ช่วยป้องกันโรคบาดทะยักในแม่ และทารกที่เกิดมาด้วย
  2. วัคซีนคอตีบ เป็นวัคซีนเชื้อตาย ประกอบไปด้วยทอกซอยด์คอตีบ เนื่องจากวัคซีนไม่มีอันตราย จึงแนะนำให้ฉีดในคุณแม่ตั้งครรภ์ ป้องกันโรคคอตีบในแม่และป้องกันคอตีบในลูกที่คลอดมา
  3. วัคซีนไอกรน โรคไอกรนเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ หากเป็นมากจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวถึงแก่ชีวิตได้ วัคซีนไอกรนเป็นวัคซีนเชื้อตาย สามารถฉีดในคนท้องได้ ช่วยป้องกันโรคไอกรนในแม่และลูกที่คลอดมา
  4. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ทำอันตรายให้กับคนท้องมากกว่าคนธรรมดา ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย เป็นที่มาให้แม่และทารกในครรภ์เสียชีวิตได้ ฉีดวัคซีน 1 เข็ม สามารถช่วยป้องกันได้ 1 ปี
  5. วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นอีกหนึ่งวัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรฉีด โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีความเสี่ยง เช่น มีคนในครอบครัวเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนนี้เป็นวัคซีนเชื้อตาย ซึ่งไม่มีอันตรายต่อแม่หรือลูก

บทความโดย : ศูนย์สุขภาพสตรี รพ. เปาโล พหลโยธิน