ยักษใหญ่หัวใจไฮบริด TOYOTA SEQUOIA 2023 เอสยูวีช้างยักษ์!




เอสยูวี 7 ที่นั่งซึ่งถูกตั้งชื่อเหมือนกับต้นสนยักษ์เรดวู้ด และตามชื่อของรถรุ่นนี้ Sequoia 2023 เป็น SUV แบบเบาะสามแถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเป้าหมายของ Toyota USA ในการยกระดับรถยนต์อเนกประสงค์แบบฟูลไซส์ที่เน้นความสะดวกสบาย พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์แบบใหม่ และประสิทธิภาพของระบบส่งกำลังไฮบริดในตลาดรถอเนกประสงค์ของสหรัฐอเมริกา Toyota Sequoia นั้นเหมาะสมกับความเป็น SUV ขนาดยักษ์ เนื่องจากมิติตัวถังที่ใหญ่โต Sequoia ยังเป็นสายพันธุ์ของต้นสนโบราณ ไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่แข็งแรงที่สุดและขึ้นชื่อในเรื่องอายุขัย โดยบางต้น มีอายุเกือบ 2,000 ปี ชื่อ “Sequoia” จึงเหมาะสม สำหรับ SUV ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ Toyota นอกเหนือจากคุณภาพความคงทนที่ยาวนาน และความน่าเชื่อถือของระบบส่งกำลัง Toyota Sequoia 2023 ถูกวางจำหน่ายในอเมริกาช่วงฤดูร้อน

Sequoia เจเนอเรชันที่สาม ออกแบบใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจดท้าย ทุกรุ่น ใช้ระบบส่งกำลังพลังงานผสม i-FORCE MAX เครื่องยนต์ไฮบริดเทอร์โบคู่ที่ทรงพลัง เปิดตัวครั้งแรกใน Toyota Tundra เครื่องยนต์เบนซิน V6 i-FORCE MAX ความจุ 3.5 ลิตร (3,445 ซีซี.) ระบบอัดอากาศเทอร์โบคู่และมอเตอร์ไฟฟ้าในชุดเกียร์ 10 สปีด ทำให้รถไฮบริดไซส์ใหญ่รุ่นนี้ มีกำลังถึง 437 แรงม้า พร้อมแรงบิดหรือแรงฉุดลากมหาศาลที่ 790 นิวตันเมตร (583 ปอนด์-ฟุต) เครื่อง i-FORCE MAX ไม่เพียงแค่มีแรงบิดอย่างล้นเหลือ เนื่องจากระบบส่งกำลัง ถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบพิเศษ เจเนอเรเตอร์และมอเตอร์เสริมแรง ติดตั้งกั้นกลางระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด การปรับจูนขุมกำลังที่คล้ายกับรถ Plug in Hybrid ของฝั่งยุโรป ให้ทั้งประสิทธิภาพและความประหยัด เครื่อง i-FORCE MAX สร้างขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานอย่างหนัก และคำนึงถึงแรงบิดสำหรับลากพ่วงเทรลเลอร์ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถบ้าน หรือเรือเร็วตกปลาขนาด 30 ฟุต ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงยังไม่ได้ถูกแจ้งอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า เครื่องยนต์ i-FORCE MAX จะสามารถแข่งขันได้ในระดับบนสุดของตลาด ซึ่งมีเครื่องยนต์ชั้นดีที่ประจำการอยู่ในเอสยูวีหรูอย่าง BMW X7  Audi Q8 และ Mercedes-Benz GLS 

Toyota Sequoia มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ 2WD หรือรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยระบบ 4WD แบบพาร์ตไทม์ สำหรับ Toyota Sequoia รุ่น SR5, Limited, Platinum และ Capstone รวมถึงรุ่นสูงสุดอย่าง TRD Pro จะมีเฉพาะระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD เท่านั้น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ตไทม์ ทำงานโดยกล่องรับส่งข้อมูลที่ควบคุมโดยซอฟต์แวร์ ผู้ขับสามารถเลือกการขับเคลื่อนในสภาวะที่แตกต่างกันออกไป เช่น ขับหลัง 2WD ขับสี่แบบ 4WD H หรือขับสี่แบบ 4WD Low เพื่อเอาตัวรอดบนเส้นทางออฟโรด

ในอเมริกา รถยนต์ SUV ขนาดฟูลไซส์ใหญ่ยักษ์ยังคงเป็นยานพาหนะที่มีความต้องการสูง นั่นหมายความว่า นักออกแบบและวิศวกรของ Toyota ในทีมพัฒนา Sequoia จะต้องจัดการกับงานปรับจูนต่างๆ อย่างก้าวกระโดด เพื่อปรับให้รถรุ่นใหม่มีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของลูกค้ามะกันซึ่งตัวใหญ่และอ้วนท้วนสมบูรณ์ราวกับหมีกริซลี่! แพลตฟอร์มของ Sequoia มีพื้นฐานมาจากแชสซีแบบ body-on-frame ที่ทันสมัย พร้อมเฟรมเต็มรูปแบบที่แชร์แพลตฟอร์มนี้ร่วมกับกระบะยักษ์รุ่น Tundra และรถอเนกประสงค์รุ่น Land Cruiser (ซึ่งใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Lexus LX) วัตถุประสงค์หลักของแพลตฟอร์มนี้ก็คือ เพื่อการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบใหม่ ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร และความสามารถในการขับเคลื่อน 

ทีมวิศวกรที่อยู่เบื้องหลังเฟรมรุ่นใหม่ ลงมือเพิ่มความแข็งแกร่งและปรับปรุงความสบายในการขับขี่โดยใช้เทคนิคใหม่ เช่น เทคโนโลยีการเชื่อมตัวถังด้วยเลเซอร์ ช่วยลดมวลและน้ำหนักในบริเวณที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องรับแรง Toyota Sequoia มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ และใช้ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ ติดตั้งบนแร็คแบบใหม่ เพื่อปรับปรุงความรู้สึกของพวงมาลัยให้ดีขึ้น ระบบกันสะเทือนหลัง multi-link มีออปชันเพิ่มเติมด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลมควบคุมความสูงหรือช่วงล่างประสิทธิภาพสูงแบบ Adaptive Variable Suspension (AVS) 

Toyota Sequoia SUV แบบสามแถวมีรูปแบบที่นั่งและห้องเก็บสัมภาระที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับรุ่นและราคา เบาะแถวที่สองแบบ captain seat ปรับเอนได้เพื่อความสบาย หรือพับราบลงหากต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระให้ขยายใหญ่ขึ้น เบาะแถวสามแบบปรับเอนได้ มีพื้นที่วางขากว้างพอสมควร พร้อมระบบพับเก็บไฟฟ้า เบาะแถวที่สามยังได้รับหนึ่งในคุณสมบัติใหม่ของ Sequoia เบาะแถวที่สามแบบเลื่อนพิเศษพร้อมระบบชั้นวางสัมภาระแบบปรับได้ เบาะแถวที่สามเลื่อนได้ด้วยช่วงการปรับยาวถึง 6 นิ้ว เบาะแถวสามยังพับราบลงกับพื้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ของระบบชั้นวางสัมภาระแบบปรับได้: ชั้นวางที่ถอดออกได้ สามารถจัดวางในตำแหน่งการจัดเก็บที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับขนาดของสัมภาระ ระบบชั้นวางของ ออกแบบมาเพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการบรรทุกสัมภาระด้านหลังและความต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บ

เนื่องจากรถ SUV ขนาดใหญ่ในอเมริกา จำเป็นต้องทำได้เกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะการลากจูงเทรลเลอร์  ไม่ว่าจะเป็นรถพ่วงบ้าน เรือ หรือรถ RV ทำให้รถอเนกประสงค์คันโตได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องบนแผ่นดินอเมริกามานานแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ Toyota Sequoia จะต้องมีสามารถในการลากจูงสูงสุดให้ได้ถึง 9,000 ปอนด์ นั่นหมายความว่า น้ำหนักลากจูงในรถรุ่นใหม่ เพิ่มขึ้นเกือบ 22% จากรุ่นที่ผ่านมา การลากจูงเทรลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นแคปซูลรถบ้าน เรือเร็วราคาแพง หรือตู้ใส่ม้าแข่งสายพันธุ์ดี อาจเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับผู้ขับบางคน Toyota พยายามปรับปรุงให้การขับในลักษณะลากพ่วง กลายเป็นเรื่องที่น่ากลัวน้อยลง ด้วยเทคโนโลยีใน Sequoia Tow Tech Package มีให้ในทุกรุ่นแต่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน TRD Pro และ Capstone ฟังก์ชัน Trailer Backup Guide ช่วยในการควบคุมรถ SUV ขณะมีการพ่วงลาก และ Straight Path Assist ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมพวงมาลัยได้อย่างง่ายดาย และตัวพ่วงก็ตรงไปตามเส้นทางที่ต้องการเมื่อหักเลี้ยว 

Drive Mode Select แบบใหม่ใน Toyota Sequoia นำเสนอโหมดการขับที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ขับ เริ่มจาก Eco โหมดประหยัด, Normal โหมดมาตรฐานให้ค่าการตอบสนองกลางๆ และ Sport ที่ตอบสนองเร็วสุด ทั้งสามโหมด เชื่อมโยงกับการตั้งค่าระบบกันสะเทือนแบบถุงลมควบคุมความสูงด้านหลัง โดยปรับระดับน้ำหนักบรรทุกได้ การตั้งค่าระบบกันสะเทือนแบบปรับเอง จะรวมถึงโหมด Comfort, Sport S+ ในโหมด SPORT หรือ SPORT S+ ระบบส่งกำลัง i-FORCE MAX จะตอบสนองในทันทีด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานส่วนใหญ่ด้วยความเร็วต่ำ เมื่อขับเร็วเกิน 18 ไมล์ต่อชั่วโมง เครื่องยนต์เบนซินจะเข้ามาสานต่อการขับเคลื่อน เพื่อประสิทธิภาพ ในช่วงความเร็วปานกลางไปจนถึงความเร็วสูง เมื่ออยู่ในโหมด TOW/HAUL เครื่องยนต์ i-FORCE MAX จะทำงานควบคู่กันอย่างต่อเนื่องทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้อัตราเร่งและแรงบิดที่น่าประทับใจ สำหรับความต้องการในการลากจูงเทรลเลอร์ขึ้นทางลาดชัน Toyota Sequoia ติดตั้งกล้องมองรอบคัน ซึ่งแสดงมุมภายนอกที่สามารถดูได้จากหน้าจอมอนิเตอร์ระบบสัมผัส ขนาด 14 นิ้ว กระจกมองหลังแสดงผลแบบดิจิทัล ฟังก์ชัน Panoramic View Monitor จะแสดงมุมมองจากบนลงล่างรอบคัน ซึ่งรวมถึงพื้นที่รอบๆ รถเพื่อสังเกตการณ์ 

Sequoia คือเอสยูวีไลฟ์สไตล์ที่รองรับการใช้งานแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวกลางคืนในเมืองกับเพื่อน ลากเรือตกปลาไปเที่ยวทะเลสาบกับครอบครัว หรือขับผจญภัยบนทางวิบากสุดขั้ว

Toyota Sequoia รุ่นเริ่มต้น SR5 มีอุปกรณ์ครบครัน พื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านกำลัง ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี ระบบส่งกำลัง i-FORCE MAX เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด, ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 2.5, หลังคามูนรูฟ, เบาะนั่งพร้อมระบบอุ่นเบาะในฤดูหนาวหรือทำความเย็น เบาะในหน้าร้อน จอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว กับจอภาพพาโนรามา (PVM) เมื่ออัปเกรดเป็นแพ็กเกจ SR5 Premium Sequoia จะได้จอแสดงผล Toyota Audio Multimedia ขนาด 14 นิ้ว เบาะแถวที่ 3 ปรับพับด้วยไฟฟ้า ฝาท้ายไฟฟ้าเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบแฮนด์ฟรี จุดยึดเบาะเด็กเล็ก Softex และปลั๊กไฟสำหรับห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระขนาด 120 โวลต์

ชุดแต่ง TRD Sport จัดล้อ 18 นิ้ว TRD สีดำด้านขนาด 20 นิ้ว เพื่อเสริมการควบคุมแบบสปอร์ต โช้คอัพโมโนทิวบ์ Bilstein TRD sport-tuned สปริง TRD-tuned เพื่อเสริมการควบคุมแบบสปอร์ต ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยแป้นเหยียบคันเร่ง เบรกและพักเท้าทำจากอะลูมิเนียมเจาะรูพรุน ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ตราสัญลักษณ์ TRD สีแดง Toyota Sequoia TRD เน้นที่ความสะดวกสบายจากการเพิ่มอุปกรณ์ หน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia ขนาด 14 นิ้วกับการเพิ่มเบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับอุณหภูมิพร้อมการตั้งค่าหน่วยความจำสามระดับ พวงมาลัยปรับอุณหภูมิ เบาะแถวที่สามพับไฟฟ้า ฝาท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี สำหรับรุ่น Limited มีม่านบังแดดแบบแมนนวล (ยกเอง) แถวที่สองและสาม เพื่อให้เบาะหลังทั้งสองแถวมีจุดบังแดด

Toyota Sequoia TRD Off-Road เสริมความสามารถบนเส้นทางวิบากด้วยการเพิ่มเฟืองท้ายแบบล็อกพร้อม Multi-Terrain Select ช่วยควบคุมการหมุนของล้อเพื่อการยึดเกาะ ระบบควบคุมการขับลงทางลาดชัน Downhill Assist Control ทำหน้าที่เป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรดสำหรับการขับบนทางออฟโรดด้วยความเร็วต่ำในโหมด 4WD Low รถรุ่น TRD Off-Road ยังมาพร้อมกับ Multi-Terrain Monitor เพื่อให้คนขับมองเห็นจุดที่มองได้ยาก มีการเพิ่มโช้คอัพโมโนทิวบ์ ของ Bilstein ที่ปรับจูนโดยวิศวกรของ TRD รวมไปถึงสปริง TRD สีแดง แป้นคันเร่งและเบรกทำจากอะลูมิเนียม ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์สัญลักษณ์ TRD สีแดง Toyota Sequoia SR5 และ Limited ใส่ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว เบาะแถวที่สองพร้อมระบบความร้อนและระบายอากาศ เครื่องเสียง JBL® Premium Audio ติดตั้งลำโพง 14 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร หลังคากระจกพาโนรามา Head Up Display ไฟหน้าและไฟท้าย LED คุณภาพสูง พร้อมไฟเลี้ยวแบบไล่จากด้านในออกไปด้านนอก ที่ปัดน้ำฝนพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝน แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย

TRD Pro คือรถรุ่นรองท็อปสำหรับครอบครัวที่ชอบการผจญภัย และชอบขับออกจากเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยเป็นประจำ TRD Pro ไม่ได้เป็นเพียงรถออฟโรดเอสยูวี เนื่องจากคุณสมบัติระดับพรีเมียม เช่น เบาะแบบ captain seat แถวที่สองปรับไฟฟ้า พวงมาลัย TRD ปุ่มปรับเสียงท่อ TRD และแป้นเปลี่ยนเกียร์ แร็คหลังคา TRD โช้คบายพาสราคาแพงของ FOX ที่ปรับแต่งโดยวิศวกร TRD โช้คอัพจิ้งจอก ออกแบบให้ช่วงล่างสามารถจัดการกับสภาพภูมิประเทศที่โหดร้าย แผ่นกันกระแทกด้านหน้าทำจากอะลูมิเนียม ประทับตรา TRD 

Sequoia TRD Pro ติดตั้งเฟืองท้ายแบบ Multi-Terrain Select, CRAWL Control และ Downhill Assist Control กระจังหน้า “TOYOTA” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมของแบรนด์สามห่วง แถบไฟ TRD ในตัวกระจังและไฟเครื่องหมายที่ด้านบนของกระจังหน้า ล้ออัลลอย TRD สีดำขนาด 18 นิ้ว เฉพาะรุ่น Pro พร้อมออฟเซตที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้มีแทรคที่กว้างขึ้น ปลายท่อไอเสียคู่ TRD Pro ช่วยเพิ่มเสียงคำราม

Toyota Sequoia Capstone รุ่นสูงสุด เป็น Sequoia ที่หรูหราที่สุด โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยโครเมียมอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อให้ดูมีระดับ ล้อโครเมียมขนาด 22 นิ้ว เบาะนั่งหุ้มหนังเน้นการเจาะรูพรุนอย่างมีสไตล์ ผสมผสานสีดำและสีขาวเฉพาะรุ่น Capstone คอนโซลกลางและแผงหน้าปัดโดยสารตกแต่งด้วยไม้วอลนัท มีการเน้นลายไม้บนขอบแผงหน้าปัด ด้วยชิ้นส่วนของไม้ Walnut ล้อมรอบโลโก้ Capstone ประดับด้วยไฟ LED กระจกแบบกันเสียงรวมถึงยางขอบประตูอย่างหนาเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก

Sequoia ใหม่มีสีให้เลือกอย่างเยอะ เช่น สีขาว, Wind Chill Pearl, สีเงิน Celestial Silver, Lunar Rock, สีเทา Magnetic Grey Metallic, สีเขียว Blueprint, Army Green, สีดำ Midnight Black Metallic, สีเทา Smoked Mesquite, สีแดง Supersonic Red และ สีเพนต์พรีเมียม Wind Chill Pearl กับ Supersonic Red ส่วนสี Solar Octane มีเฉพาะในรุ่น TRD Pro

Sequoia ติดตั้งระบบมัลติมีเดียแบบใหม่ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน Tundra 2022 หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว หรือ 14 นิ้ว ระบบ Toyota Audio Multimedia ออกแบบโดยทีม Connected Technologies ของ Toyota ในเท็กซัส อินโฟเทนเมนต์ Toyota Audio Multimedia มาพร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะ ให้บริการผ่าน Drive Connect  สั่งงานด้วยเสียง Hey Toyota เพื่อค้นหาเส้นทาง ค้นหา POI ปรับการควบคุมเสียง เปลี่ยนอุณหภูมิในห้องโดยสาร เปิด-ปิดหลังคากระจกและอื่นๆ ระบบนำทางแบบเนทีฟบนคลาวด์ นำเสนอผ่าน Drive Connect สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ทางอากาศหรือ Over the Air แบบเรียลไทม์ สำหรับแผนที่และจุดที่น่าสนใจ (POI) และข้อมูล Google POI ถูกรวมเข้าด้วยกัน รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายสำหรับ OS Apple CarPlay® และ Android Auto

Toyota Audio Multimedia เชื่อมต่อโทรศัพท์ Bluetooth ได้พร้อมกันสองเครื่อง การสมัครใช้งาน Wi-Fi Connect ให้การเชื่อมต่อ 4G สำหรับอุปกรณ์มือถือสูงสุดมากถึงห้าเครื่อง โดยเปลี่ยน Sequoia ให้เป็น AT&T Hotspot* และยังมีความสามารถในการเชื่อมโยงการสมัครรับข้อมูล Apple Music® และ Amazon Music แยกต่างหากกับรถยนต์ของคุณด้วย Integrated Streaming

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 2.5 เป็นระบบความปลอดภัยเชิงรุก รวมถึงระบบป้องกันการชนกันล่วงหน้า พร้อมการตรวจจับคนเดินถนน ที่มีการปรับปรุงจากรุ่นที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่การตรวจจับรถข้างหน้า แต่ยังรวมถึงคนเดินถนนในบริเวณที่มีแสงสว่างน้อย นักปั่นจักรยานในเวลากลางวัน รถที่วิ่งสวนมา และคนเดินถนนที่ทางแยกเมื่อทำเลี้ยว ระบบออกแบบมาเพื่อตรวจจับยานพาหนะที่กำลังสวนทางมา หรือคนเดินถนนเมื่อทำการเลี้ยวซ้าย แจ้งเตือนด้วยเสียงและภาพ ทำงานร่วมกับระบบเบรกอัตโนมัติในบางสภาวะ ระบบช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉินเป็นฟังก์ชันเพิ่มเติม ออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนน ทำให้การบังคับเลี้ยวหลบหลีกฉุกเฉินของผู้ขับมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยป้องกันการวิ่งออกนอกเลนอีกด้วย

Toyota Sequoia ติดตั้งระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) ระบบเตือนการออกนอกเลน ระบบช่วยบังคับเลี้ยวจะเพิ่มการหน่วงและสั่นเตือนที่พวงมาลัยเล็กน้อย หากตรวจพบว่ารถกำลังออกจากเลนโดยไม่มีการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว เมื่อ DRCC ถูกตั้งค่าและเข้าร่วมกับระบบ Lane Tracing Assist เพื่อช่วยให้รถวิ่งอยู่ตรงกลางช่องทางที่ถูกต้อง

ไฟสูงอัตโนมัติออกแบบมาเพื่อตรวจจับรถที่ขับมาข้างหน้าหรือที่ขับสวนมา และสลับไปมาระหว่างไฟสูงและไฟต่ำโดยอัตโนมัติ Road Sign Assist จดจำข้อมูลป้ายจราจรโดยใช้กล้องหน้า และแสดงผลบนจอแสดงผลข้อมูลหลายส่วน (MID) ฝาท้ายจะถูกเปิดภายใน 10 นาทีหลังจากลงจากรถ หรือเมื่อใดก็ตามหลังจากที่ล็อกรถแล้ว โดยมีข้อความเตือนในแผงหน้าปัดหลังจากดับเครื่องยนต์ พร้อมด้วยมัลติโทนเสียงคล้ายระฆัง

ระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น Blind Spot Monitor ช่วยตรวจเตือนยานพาหนะที่กำลังเข้าใกล้หรือวางตำแหน่งในเลนที่อยู่ติดกัน Rear Cross Traffic Alert  ช่วยตรวจจับยานพาหนะที่กำลังเข้าใกล้จากด้านใดด้านหนึ่งขณะถอยหลัง และเตือนด้วยภาพและเสียง ระบบช่วยจอดด้านหน้าและด้านหลังพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ ออกแบบเพื่อการควบคุมเบรกแบบอัตโนมัติ เมื่อมีความเป็นไปได้ที่จะชนกับวัตถุที่อยู่นิ่ง เข้าใกล้รถ หรือขณะจอดรถ.

Type, Materials
i-FORCE MAX: 3.5-liter aluminum block V6 Hybrid, twin-turbochargers with
water cooled intercoolers; 24-valve DOHC chain drive with Dual VVT-i
Displacement 3,445 cc
Bore x Stroke 85.5mm x 100mm
Compression Ratio 10.4:1
Horsepower 437 hp @ 5,200 rpm
Torque 583 lb-ft @ 2,400 rpm
Ignition System DIS (Direct) with iridium-tipped spark plugs
Fuel System D-4ST direct injection and port injection
Recommended Fuel 87-octane unleaded
Emission Certification LEV III
EPA Estimated Fuel Economy* (city/highway
MPG/combined)
21/24/22 (4×2)
19/22/20 (4×4)
*2023 EPA Estimated fuel economy. Actual mileage will vary.

ELECTRIC MOTOR
Type Permanent Magnet Synchronous Motor
System Parallel hybrid system with electric motor/generator located between engine and transmission
Electric Motor Power Output 48 hp (36 kw)
Torque 184 lb-ft (250 Nm)
HYBRID BATTERY PACK
Type Sealed Nickel-Metal Hydride (Ni-MH) battery
Rated Voltage 288V (240 cells – 40 modules) Ex: 259.0 V (70 cells, 3.7V/cells)
Capacity 1.87 kWh
System Voltage 650 volts max

DRIVETRAIN
Layout FORCE MAX: 4×2 front engine with rear-wheel drive with Automatic Limited-Slip
Differential with Parallel hybrid system with electric motor/generator located
between engine and transmission; 4×4 front engine with 4WDemand part-time 4WD
with electronically controlled two-speed transfer case (high/low range) andAutomatic
Limited-Slip Differential (Auto LSD) with Parallel hybrid system with electric
motor/generator located between engine and transmission
Transmission Type 10-speed Electronically Controlled Automatic Transmission with intelligence (ECT[-i]),
sequential shift mode, uphill/downhill shift logic, and TOW/HAUL driving modes
Gear Ratios
1 st 4.92
2 nd 3.26
3 rd 2.35
4 th 1.94
5 th 1.53
6 th 1.19
7 th 1.00
8 th 0.80
9 th 0.66
th 10 0.61
Reverse 4.30
Differential Ratio 3.31

Suspension – Front – Rear
Core Models: Independent double-wishbone front suspension with stabilizer bar and twin-tube shock absorbers
TRD Sport: TRD sport-tuned with Bilstein shocks
TRD Off-Road: TRD off-road suspension with monotube Bilstein shocks
TRD PRO: TRD off-road suspension with 2.5-inch FOX Internal Bypass coil-overs and rear remote-reservoir shocks, and TRD PRO front stabilizer bar
Standard: Multi-link rear suspension with coil springs and outboard-mounted twin-tube shock absorbers
– Available Adaptive Variable Suspension (AVS)system
– Available Load-leveling Rear Height Control Air Suspension

Steering
(4×2/4×4)
– Type
– Turning Radius(ft.)
– Turns (lock to lock)
– Turning Circle
Diameter (curb to curb)
Electronic Power Steering (EPS); power-assisted rack-and-pinion 20.1/22.3 (TRD Pro) 3.4 (3.2 TRD Pro) 40.2/44.5 (TRDPro)

Brakes
– Front
– Rear
– Parking Brake
Power-assisted ventilated 13.9-in. front disc brakes with opposed dual-piston calipers
Ventilated 13.6-in.rear disc brakes with single piston calipers
Electric Parking Brake (EPB)

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/