พลิกชีวิต คลองผดุงกรุงเกษม ผลงานทิ้งทวนของผู้ว่าฯ อัศวิน




เรียกได้ว่าเป็นผลงานทิ้งทวนของผู้ว่าฯ กทม. พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ก็ว่าได้ สำหรับโครงการ “ปรับภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม” เพื่อพลิกฟื้นพื้นที่สาธารณะรอบคลองให้ชาวกรุงฯ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565

โครงการปรับภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม มีระยะทางรวม 4,480 เมตร แบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่

  • โซนที่ 1 ตลาดน้อย ระยะทาง 680 เมตร
  • โซนที่ 2 หัวลำโพง ระยะทาง 1,250 เมตร
  • โซนที่ 3 โบ๊เบ๊ ระยะทาง 450 เมตร
  • โซนที่ 4 นางเลิ้ง ระยะทาง 700 เมตร
  • โซนที่ 5 สถานที่ราชการ ระยะทาง 700 เมตร
  • โซนที่ 6 เทเวศร์ ระยะทาง 700 เมตร

เฉพาะโซนหัวลำโพงใช้งบประมาณ 99.98 ล้านบาท ส่วนช่วงที่เหลือคาดว่าใช้งบประมาณค่าจ้างออกแบบอยู่ที่ 17.6 ล้านบาท ซึ่งเริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2564 และเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 2565

เปิดเหตุผลที่มาของโครงการปรับภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม

ที่มาของโครงการปรับภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม มาจาก 1 ใน 5 โครงการ “ฟื้นเมือง เชื่อมย่าน สานอนาคต” ของ กทม. มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูพื้นที่โครงการนำร่องถนน-ทางเท้า ฟื้นฟูโครงข่ายคูคลอง พื้นที่สีเขียว ด้วยการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมเมือง ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคม รถ ราง เรือ ในย่านสำคัญของเมืองได้ด้วย

พร้อมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์คูคลองให้มีความสะอาด สวยงาม และปลอดภัย เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาแหล่งน้ำให้สวยงามสะอาดอย่างยั่งยืน และสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น เป็นเส้นทางสัญจร สถานที่พักผ่อน สถานที่ออกกำลังกาย

ล่าสุด กทม. ได้จัดงานตลาดนัดผดุงศิลป์ บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม โซนที่ 2 หัวลำโพง ในช่วงกลางเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน 2565 เพื่อให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่และชุมชน โดยเน้นงานศิลปะและดีไซน์ มีกิจกรรมฉายหนังข้ามคลอง และการแสดงดนตรีหลากหลายแนว

นอกจากการปรับภูมิทัศน์รอบคลองผดุงกรุงเกษมให้สวยงามแล้ว ยังเปิดให้มีบริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้ามาให้บริการแทนเรือเครื่องยนต์ดีเซล จุดเด่นคือปลอดฝุ่นควัน ไม่สร้างมลพิษขณะเดินเรือ และไม่ก่อมลภาวะทางเสียง เพราะเครื่องยนต์มีเสียงเบา เรือใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน 100% ซึ่งจะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพียง 1 ใน 4 ของต้นทุนการเดินเรือด้วยน้ำมันดีเซล โดยทางสำนักการจราจรและขนส่ง ได้จัดสรรงบประมาณสำหรับเรือพลังงานไฟฟ้าไว้ที่ 117 ล้านบาท

การสัญจรด้วยเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในคลองผดุงกรุงเกษมจะเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะหลัก เช่น รถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า และเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเมืองแรกในภูมิภาคอาเซียนที่เพิ่มทางเลือกการเดินทางด้วยบริการเรือขนส่งสาธารณะให้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยระยะทาง 5 กิโลเมตรในคลองผดุงกรุงเกษม มีเส้นทางเดินเรือตั้งแต่ใจกลางพระนครผ่านแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญออกไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มตั้งแต่สถานีรถไฟหัวลำโพงถึงท่าเรือตลาดเทวราช ผ่านสถานที่ราชการสำคัญย่านค้าขาย เช่น ตลาดโบ๊เบ๊ ตลาดมหานาค และตลาดเทเวศร์ ใช้เวลาเดินทางตลอดสายไม่เกิน 30 นาที รองรับผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน และนักท่องเที่ยว

ปัจจุบัน กทม.ได้จัดให้มีบริการเดินเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในคลองผดุงเกรุงเกษมในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 06.00-19.00 น. ประมาณ 15 นาทีต่อลำ ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. ประมาณ 30 นาทีต่อลำ มีค่าโดยสารไม่เกิน 10 บาท ตลอดสาย

ประวัติคลองผดุงกรุงเกษม

คลองผดุงกรุงเกษม เป็นคลองเก่าแก่มีอายุกว่า 170 ปี ถูกขุดขึ้นใน พ.ศ.2394 สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) เนื่องจากทรงเห็นว่าบ้านเมืองมีความเจริญขึ้น และมีผู้คนจำนวนมากขึ้น จึงควรขยับขยายพื้นที่พระนครออกไป ด้วยการขุดคลองผดุงกรุงเกษมขึ้นให้เป็นคลองรอบพระนครชั้นนอก

จุดเริ่มต้นของคลองผดุงกรุงเกษมอยู่ที่ปากคลองริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดเทวราชกุญชร (วัดสมอแครง) ย่านเทเวศร์ มีแนวขนานไปกับคลองคูเมืองเดิม ผ่านย่านหัวลำโพง ตัดผ่านคลองมหานาคไปทะลุแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้านหนึ่งบริเวณวัดแก้วแจ่มฟ้า สี่พระยา

ภาพโดย: ชุติมน เมืองสุวรรณ

อ้างอิงข้อมูล: กทม., กรมประชาสัมพันธ์, ธนาคารแห่งประเทศไทย