พระกริ่งตั๊กแตน ยุคต้น ฐานบัวตุ่ม เชื่อว่าเป็นพระอิมพอร์ตจากเขมร




วันนี้ สนามพระ ทุกแห่งสดใสกว่าปกติ เพราะส่วนใหญ่อยู่ในห้าง จึงพลอยได้บรรยากาศ พรี วาเลนไทน์ รับ 14 ก.พ.ไปด้วย

ส่วน สนามพระวิภาวดี ก็มีความรักมาบอก ด้วยคติธรรมของ ความรัก ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าความรักของหนุ่มสาวเกย์ทอมดี้ เพราะ หลวงพ่อคูณ บอกว่า “ให้รักพ่อรักแม่ และทำบุญทุกวัน คือ ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่เสมอ อย่ามัวรอไปทำบุญ 100 วัน ซึ่งจะได้บุญน้อยกว่า”…..รักพ่อแม่ เผื่อแผ่ญาติมิตรกันแล้ว ไปต่อกันที่ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพระสมเด็จ “องค์ครู” อีกองค์ ในรังของ “โป๊ยเสี่ย” นายไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ ที่ได้ชื่อว่าเพอร์เฟกต์ ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร…..วรรณะผิวเนื้อ ก็สมบูรณ์สุดๆ ด้วย เปลือกผิวแตกลายงา ที่เกิดจากการล่อนหลุดของ ชาด รักทอง ที่โบราณนิยมทาทับ เพื่อรักษาองค์พระ องค์พระ ที่เรียกว่า ปิดทองล่องชาด…..องค์นี้ส่องเห็นได้ในส่วนหลุดล่อนไป ตามอายุ และบางส่วนมีเหลือให้เห็นเป็นหลักฐานในซอกส่วนลึกของพิมพ์พระ และรอยปริแยกของเนื้อทั่วองค์ เสริมให้พระมีเสน่ห์ ความงามอย่างติดตา ซึ้งใจ จึงเป็น 1 ในพระสมเด็จองค์งามแถวหน้า ระดับดาวค้างฟ้า ของวงการมาตลอดๆ…..

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆังฯ ของ “โป๊ยเสี่ย” ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์.

ต่อด้วย พระรอด พิมพ์ต้อ กรุวัดมหาวัน ลำพูน องค์นี้ สภาพสมบูรณ์ฟอร์มทรงลงตัว พิมพ์พระลึกชัด ล่ำสันแบบ “สุดพิมพ์” ผิวเนื้อมีริ้วรอยสัมผัสใช้ผิวสิวๆ เปิดเห็น เนื้อพระละเอียดแน่น แกร่งอุดมด้วยมวลสารครบสูตร…..เป็นพระแท้
ดูง่ายสภาพโชว์ได้ใช้ดี ของ เสี่ยโจ๊ก ลำพูน ที่ผู้สนใจแสวงหาเห็นแล้วต้องโดนใจ และตามด้วยโดนจ่ายย้ายกุฏิ…..

พระรอด พิมพ์ต้อ กรุวัดมหาวัน ของ โจ๊ก ลำพูน.

องค์ที่สามเป็น พระกริ่งตั๊กแตน สมาธิ ฐานบัวตุ่ม ยุคต้น หนึ่งใน พระกริ่งนอก (สร้างจากนอกประเทศ นำเข้าสู่สยาม) มี พระกริ่งจีนใหญ่ พระกริ่งบาเก็ง พระกริ่งหนองแส พระกริ่งตรีอ๋อง …..พระกริ่งตั๊กแตน ได้รับความนิยมสูง เดิมเชื่อว่าเป็นพระอิมพอร์ตจากเขมร แต่ระยะหลัง พิสูจน์ว่าไม่พบพระกริ่งนี้ในเขมร จึงมีความเชื่อใหม่ ว่าน่าจะสร้างในประเทศไทยทางชายแดนภาคอีสานด้านติดเขมร โดยพิจารณาจากพุทธลักษณะแล้วมีความละม้ายคล้าย พระอุปคุตและพระบัวเข็ม ฝีมือช่างไทยเชื้อสายมอญ อายุการสร้างปลายสมัยอยุธยาถึงรัตนโกสินทร์ยุคต้น…..แต่จะกำเนิดที่ไหน ความนิยมก็ไม่ได้ลดลง และแพงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีประสบการณ์ด้านคุ้มครองป้องกันภัย ทั้งอุบัติเหตุทางรถยนต์ (แบบตกเหวยังรอด หรือถูกล้อมยิงด้วยปืนสงครามรถพรุนรอบคัน แต่คนไม่ระคายแม้ผิวเนื้อ)…..ลักษณะเป็นองค์พระนั่ง ปางสมาธิเพชร เหนือฐานบัวตุ่ม บัวฟันปลา พระหัตถ์ มีทั้งแบบประสานทำสมาธิ ถือหม้อนํ้ามนต์ ถือวัชระ หรือดอกบัว…..เหตุที่เรียก พระกริ่งตั๊กแตน เพราะพระพักตร์ดูคล้ายตั๊กแตน ไรพระศก สร้อยสังวาล พระนาสิกเป็นเม็ดตุ่มกลมใหญ่ เนื้อเป็นสัมฤทธิ์เงิน (เนื้อเงินพดด้วง) ผิวกลับดำ แบบองค์นี้ ที่มีสภาพงามสมบูรณ์ระดับแชมป์ ของ เสี่ยเพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง

พระกริ่งตั๊กแตน สมาธิ ยุคต้น ของ อิทธิ ชวลิตธำรง.

อีกรายการ เป็น พระพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร(สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม กทม. ๑ ในพิมพ์มาตรฐานที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในสกุล “พระวัดพลับ” …..องค์งามๆ สภาพสมบูรณ์เดิมๆ คราบฝ้ารากรุจับแน่นเคลือบผิวเนื้อเป็นมันเงา มีตุ่มเนื้อ (เนื้องอก) ผุดขึ้นให้เห็นทั่วองค์ แบบองค์นี้ ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ เป็นสเปกพระแท้ดูง่าย บอกอายุความเก่าถึงยุคอย่างแน่นอน…..เพราะอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ที่มีประสบ การณ์โดดเด่นชัดเจน ทั้งเมตตา โชคลาภแคล้วคลาดภัย จนถึงคงกระพันชาตรี ป้องกันเขี้ยวงา ได้ชะงัด แบบที่พระเนื้อผงสกุลอื่นมีไม่ครบ จนมีคำกล่าวว่า แขวนเดี่ยวองค์เดียวได้สบายใจ ไปได้ทุกทิศทั่วไทย ปลอดภัยหายห่วง หมดกังวลมีโชค มีชัยอย่างอัศจรรย์ ทำให้ปัจจุบันราคาสูงถึงหลักแสนกลางไปแล้วล่ะคุณโยม…..

พระพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดพลับ ของ พรรค คูวิบูลย์ศิลป์.

ต่อไป ขอเสนอ พระปิลันทน์ พิมพ์หยดแป้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ เขตบางกอก น้อย กทม. พระพิมพ์นิยม ชุดจิ๋ว ที่สร้างขณะท่านดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพุทธบาทปิลันทน์ เพื่อนำบรรจุ สืบอายุพระพุทธศาสนาและมอบผู้ร่วมกุศล ในพิธีรับฐานาที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ซึ่งเป็นสมณ ศักดิ์เดิมของ ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) องค์พระอาจารย์ …..ออกแบบพิมพ์พระ โดยช่างหลวง มีกว่า ๒๐ พิมพ์ เนื้อพระมีทั้งแบบ ผงพุทธคุณขาว และ ผงพุทธคุณผสมใบลานเผา (เทาดำแกมเขียว) มีขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก และจิ๋ว อย่างองค์นี้ ของ เสี่ย ป.สินกาญจน์ ซึ่งมีความงามสมบูรณ์ของฟอร์มทรง พิมพ์พระ คราบไขกรุและเนื้อมวลสารถูกต้อง และงดงามเป็นที่สุดองค์หนึ่ง…..

พระปิลันทน์ พิมพ์หยดแป้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ ของ เสี่ย ป.สินกาญจน์.

รายการที่หก ขอเสนอ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๗ รุ่นแรก เนื้อทองคำ หลวงพ่อเกษม เขมโก ของ เสี่ยโหน่ง กาดเมฆ…..รุ่นนี้ออกที่วัดพลับพลา จ.นนทบุรี เพราะ เจ้าอาวาสวัดพลับพลา ขออนุญาตจัดสร้าง หารายได้สร้างพระอุโบสถ เป็น เหรียญรูปเหมือน กับ พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ…..ออกแบบโดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ เนื้อเหรียญมีทอง คำ เงินนวโลหะ ทองแดง เป็นเหรียญปั๊ม ทรงกลมรูปไข่ ด้านหน้าเป็นองค์หลวงพ่อนั่งสมาธิเต็มองค์ พื้นเหรียญเป็นท้องกระทะ ด้านล่าง ใต้องค์ท่าน มีอักษร เกษม เขมโก ด้านหลัง รอบขอบมีอักษรบอกวาระการสร้างว่า อนุสรณ์สร้างพระอุโบสถวัดพลับพลา นนทบุรี สุสานไตรลักษณ์ ๙ ต.ค.๑๗–ปัจจุบันเป็น ๑ ในเหรียญหลวงพ่อเกษม ที่ได้รับความนิยมเล่นหาสูง…..

เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก พ.ศ.๒๕๑๗ เนื้อทองคำ วัดพลับพลา ของ โหน่ง กาดเมฆ.

ต่อด้วย เหรียญข้าวหลามตัด หลวงปู่เอี่ยม รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๗ วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด นนทบุรี ของ เสี่ยวิเชียร อินทพันธ์…..เป็น เหรียญรูปจำลอง หลวงปู่เอี่ยม ที่ หลวงพ่อทองสุข สร้าง เป็นเหรียญรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด รุ่นแรก ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมในราคาสูงถึงหลักแสน โดยเฉพาะ เหรียญบล็อกหลัง ยันต์ใหญ่…..

เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ของ วิเชียร อินทพันธ์.

สุดท้ายเป็นเครื่องรางของขลังยอดนิยมยอดแพง คือ เขี้ยวเสือแกะ (หน้าแมว) หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน อ.บางพลี สมุทร ปราการ สร้างไว้โดย หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย (ชื่อเดิมวัด) เพราะที่ตั้งวัดเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำจึงเป็นแหล่งอาศัยของตัวเงินตัวทอง ชื่อที่ชาวบ้านเรียกคือ “วัดคลองด่าน” ส่วนชื่อทางการ คือ วัดมงคลโคธาวาส…..หลวงพ่อปาน กำเนิดเมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๐ ในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บิดามารดาพาฝากเป็นศิษย์ พระศรีศากยมุนี บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดอรุณราชวราราม เมื่ออายุ ๑๕ ปี พออุปสมบท ก็เรียนวิปัสสนากรรมฐาน พุทธเวทย์ ไสยเวทย์ และได้เรียนวิปัสสนาต่อกับ หลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา สำเร็จแล้ว ก็กลับไปจำพรรษาวัดคลองด่าน จนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส…..ท่านได้สร้างเครื่องราง ตามตำรับวิชาที่ได้รับสืบทอดมาจาก หลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา ด้วย เขี้ยวเสือโคร่ง ซึ่งมีพบทั้ง แบบเต็มเขี้ยว (ก้นมีรูกลวง) กับ เขี้ยวซีก (ก้นตัน) ซึ่ง ๑ เขี้ยวจะแกะได้ ๕-๖ ตัว มีพบทั้งขนาดจิ๋ว เล็ก กลาง ใหญ่ …..

เขี้ยวเสือแกะ (หน้าแมว) หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ของ สถิต ราชบุรี.

ลักษณะเป็นเสือนั่งชูขาหน้าเหยียดตรง ปลายเล็บจิกพื้น ขาหลังพับนั่ง ปรากฏเล็บ ๕ เล็บจิกพื้นเช่นกัน…..ขนาด จิ๋ว เล็ก กลาง ที่พบ ส่วนใหญ่เป็น เสือหน้าแมวหุบปาก ส่วน ขนาดใหญ่ เป็น เสืออ้าปากแยกเขี้ยว “เสือโห่”….. ผู้เชี่ยวชาญ แยกฝีมือช่าง ได้เป็น ๕-๖ ฝีมือ ใต้ฐาน ปรากฏจารอักขระ “หัวใจเสือโคร่ง” เป็นเส้นคมวน เรียก “ยันต์กอหญ้า” เป็นจุดพิจารณาสำคัญสุด อย่างตัวในภาพนี้ ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี ซึ่งมีคาถากำกับอาราธนาว่า “พยัคโค พยัคฆา สุญญาสัพติ อิ ติ ฮัม ฮึม ฮึม”…..มาถึง เรื่องปิดท้ายรับวาเลนไทน์ สไตล์ “เสี่ยโจ” ลูกชายเซียนพระใหญ่ พอเรียนจบเมืองนอกก็กลับมาและได้พบสาวถูกใจ เจ้าของร้านขนมหวาน…..พอใกล้จะถึงวาเลนไทน์ เสี่ยโจ ก็อยากหาของขวัญที่โดนใจ มอบให้แฟน จึงโทร.ปรึกษา เสี่ยแม็ก เพื่อนสนิท เพื่อนก็แนะนำว่า ต้องเป็นของขวัญพิเศษสุด ที่นอกจากจะมีราคาแล้ว ต้องมีคุณค่า หรือยิ่งทำด้วยมือ ยิ่งดี รับรองโดนใจแฟน…..เสี่ยโจฟังแล้วก็ปิ๊งไอเดีย จึงไปปรึกษาพ่อ ขอ พระนางพญา ไปให้แฟน พ่อก็เห็นดีด้วย ให้ พระนางพญา พิมพ์เทวดา มา เสี่ยโจรับพระอย่างปลื้ม…..พอถึงเช้า เอาพระมาอวดพ่อ บอกผมทำด้วยมือทั้งคืน เพื่อสื่อความหมายถึง ความรักในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเพื่อนผมบอกว่าเป็นการเพิ่มคุณค่า….. พ่อรับองค์พระมาดู แล้วส่ายหน้า บอกว่า ทำแบบนี้มัน เพิ่มคุณค่าความรักก็จริง แต่ลดราคาพระกระจุย เสียหายไปเป็นแสน–เพราะลูกชายดันเอาสีชมพูทาองค์พระซะหวานแหวว เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง