นักฆ่า i4 โหดสายฟ้า NEW MERCEDES-AMG EQE 53+




Mercedes-AMG เปิดเผยถึงประสิทธิภาพ ความสามารถของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะออกขายภายในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งดูเหมือนจะได้รับคำแนะนำจากลูกค้าที่ไม่ชอบแบรนด์ Tesla โดยพยายามสร้างแรงบันดาลใจในเรื่องของอัตราเร่ง เพราะเป็น AMG ไฟฟ้ารุ่นใหม่เพียงคันเดียวที่ให้ตัวเลขประสิทธิภาพสูงสุด “110%” ในโหมด ‘Race Start’ ถือว่ามากที่สุดในปัจจุบัน

สปอร์ตซาลูนไฟฟ้ารุ่นนั้นก็คือ Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ ซึ่งใช้เวลาวิจัยและพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้านานกว่า 5 ปี เพื่อยกระดับการขับ ให้เท่าเทียมกับ AMG E63 4Matic + ซึ่งใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ปล่อยมลพิษเยอะและรับประทานเชื้อเพลิงอย่างตะกละตะกลาม electric supersaloon AMG EQE กับฟังก์ชันใหม่ คือหนึ่งในไฮเปอร์ไดรฟ์แบบใหม่ของสำนัก AMG ที่ไม่มีเครื่องยนต์! ด้วยฟังก์ชันพิเศษ ‘Dynamic Plus Package’ ที่ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่ม มันจะนำพา AMG EQE 53 4Matic + เข้าสู่โหมด ‘Race Start’ ด้วย ‘ฟังก์ชัน เร่งความเร็วอย่างยิ่งยวด’ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่เพลาหน้าและเพลาหลัง กำลังรวมกันมากถึง 617 แรงม้า ด้วย ‘Dynamic Plus Package’ จะพุ่งขึ้นเป็น 677 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร ทะยานไปถึง 1,001 นิวตันเมตร ทำให้ EQE 56 4Matic + มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.3 วินาที เป็นอัตราเร่งที่สูสีกับรถไฟฟ้าของคู่แข่งสี่ห่วงอย่าง Audi RS e-tron GT แต่ทั้งสองรุ่นก็ยังมีอัตราเร่งที่หวานหมู เมื่อเทียบกับ Tesla Model S รถไฟฟ้าอเมริกันที่มีภายในห่วยๆ แต่เร่งความเร็วได้เหลือกำลังลาก!

คุณจะพบว่า Mercedes-AMG EQE 53 4Matic + วิ่งด้วยความเงียบสงัด พร้อมเสียงสังเคราะห์ที่พยายามทำตัวเลียนแบบเสียงของยานรบเอเลี่ยนที่เดินทางมายังโลกมนุษย์ ในทุกวันนี้ ประสิทธิภาพด้านพลังงานของรถ AMG นั้นไม่เป็นที่กังขาอีกต่อไป นั่นหมายถึงรถ AMG ที่ใช้เครื่อง V8 ทวินเทอร์โบ รถที่ใช้เชื้อเพลิงเร่งได้อย่างเร้าใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อการปฏิวัติระบบขับเคลื่อนเดินทางมาถึง AMG ต้องยอมละทิ้งเครื่องยนต์ประกอบด้วยมือมนุษย์ เพราะโดนบีบเรื่องมลภาวะ โดยยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ พร้อมกับการพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าศักยภาพสูง รถสปอร์ตซาลูนรุ่นใหม่อย่าง EQE 53 4Matic + และพี่น้อง EQE ในรุ่นที่รองกว่าอย่าง 43 ทั้งสองรุ่น ติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยมอเตอร์คู่ที่วางแยกกันเพื่อขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลัง คือตัวอย่างของ Electric AMG ในอนาคต!

มอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตำแหน่งที่เพลาหน้าและอีกหนึ่งที่เพลาหลัง ติดตั้งในแพลตฟอร์ม ‘EVA2’ ของ EQE ซึ่งมีการปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของช่างในสำนัก AMG โดยเฉพาะ ในทางเทคนิค นั่นหมายถึง “การดัดแปลงรถยนต์โดยเปลี่ยนระบบส่งกำลังใหม่ทั้งหมด มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง อินเวอร์เตอร์แบบเฉพาะตัว มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังแบบ 6 เฟส และแบตเตอรี่ใหญ่ยักษ์น้ำหนักเยอะที่วางอยู่บนพื้นรถ การจ่ายไฟให้กับมอเตอร์สองตัวนี้คือภารกรรมสาหัสของแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า 90.6kWh ของ EQE ให้เอาต์พุตแบบเฉพาะเจาะจง มันขึ้นอยู่กับโหมดขับเคลื่อนที่คุณเลือก ตัวอย่างเช่น โหมด Slippery บนถนนลื่น มีการจำกัดแรงบิดเอาไว้แค่ 50% ส่วนโหมด Comfort ระบบควบคุมพลังงานจะปลดปล่อยแรงบิดแค่ 80%  สำหรับ Sport Mode ซอฟต์แวร์จะเทแรงบิดลงล้อทั้งสี่ถึง 90% ในขณะที่ ‘Sport+ Mode’ และ ‘Race Start Mode’ เท่านั้นที่ได้รับแรงบิดแบบจัดเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ ‘Race Start’ กับการปรับแต่งของ AMG ประสิทธิภาพด้านแรงบิดจะถูกปลดปล่อยออกมามากถึง 110% !!! (แค่ 100 ก็แย่แล้วละครับ) กำลังพุ่งขึ้นจาก 617 เป็น 677 แรงม้า (505 กิโลวัตต์) ส่วนตัวเลขแรงบิดก็มหาโหดมากถึง 1,001 นิวตันเมตร 

Mercedes-AMG EQE 53 4Matic+ ที่ติดตั้ง Dynamic Plus Package เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.3 วินาที ในขณะที่ EQE 53 4Matic เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.5 วินาที สำหรับหนูเล็ก AMG EQE 43 รถซาลูนไฟฟ้าระดับเริ่มต้นนั้นทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.2 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด AMG EQE43 ทำได้ 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง AMG EQE 53 4Matic ทำได้ 218 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ AMG EQE 53 4Matic + ทำได้ที่ 241 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั้นมันช้าเกินไปเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของเครื่อง V8 ทำด้วยมือ ซึ่งบางรุ่น อาจมีตีนปลายจัดจ้านถึง 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!! 

EQE AMG มีการปรับลดแรงสั่นสะเทือน ด้วยช่วงล่างปรับแต่งพิเศษ ด้านหน้าปีกนกคู่ four-link ด้านหลังแบบ multilink ควบคู่ไปกับระบบกันสะเทือน AMG Ride Control+ system ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาของ AMG ระบบกันสะเทือนและเหล็กกันโคลงที่มีการปรับให้แข็งขึ้น สอดรับกับแรงบิดที่เพิ่มขึ้น สำหรับบริบทของการขับเคลื่อน คนในของ AMG กล่าวว่า การตั้งค่าช่วงล่างให้แข็งขึ้น เทียบเท่ากับการติดตั้งใน AMG EQS และ AMG GT Four-Door Coupe โช้คอัพไฟฟ้าแบบ Adaptive ปรับแต่งใหม่ ระบบวาล์วจำกัดแรงดันในกระบอกโช้ค ให้ทั้งความสบายและไดนามิกที่ดีขณะทำความเร็ว AMG EQE 53 และ EQE 53+ ยังมาพร้อมกับระบบเลี้ยวล้อหลังคล้ายกับ EQS อีกด้วย 

เบรกของ AMG EQE มีขนาดใหญ่มาก ดิสก์ด้านหน้าและด้านหลังขนาด 415 มม./378 มม. คาร์ลิปเปอร์หน้าแบบ 6 พอตสีทอง และจานเบรกคาร์บอนเซรามิกที่ใหญ่กว่า เป็นตัวเลือกที่ต้องจ่ายเพิ่ม มี ‘i-Booster’ ซึ่งไม่ใช่ที่ชาร์จของ iPhone แต่เป็นการผสมผสานการทำงานของระบบเบรกแบบไฮดรอลิกและ electric recuperation ซึ่งน่าจะให้ความรู้สึกเหมือนชุดเบรก AMG ที่เหมาะสมกับสมรรถนะของรถ

มันอาจไม่เหมือน AMG ที่ใช้เครื่องยนต์ประกอบด้วยมือ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ระบบขับเคลื่อนที่คุณคุ้นเคย เช่นเดียวกับ AMG EQS เจ้า AMG EQE ที่วิ่งได้อย่างรวดเร็ว จะมีการสร้างเสียงจำลองแทรกเข้ามาในลำโพง แม้ว่าเราจะชื่นชอบเสียงเครื่องยนต์ V8 ที่ก้าวร้าวและดุดันแบบรถ AMG ดั้งเดิม แต่ใน AMG พลังงานไฟฟ้า การวิ่งด้วยความเงียบอาจทำให้รู้สึกเบื่อ! EQE AMG มีโหมดเสียงให้เลือกสามโหมด เช่น balanced / Sport / Powerful สำหรับนักขับรุ่นเก่ามองว่ามันทั้งแปลกและตลก แต่พวกวัยรุ่นกลับชื่นชอบมันราวกับสินค้าใหม่ของ Apple 

สถาปัตยกรรมโครงสร้างแชสซีแบบใหม่เพื่อติดตั้งระบบขับเคลื่อนพลังงานสะอาด ตัวถังของ EQE ได้รับการตกแต่งให้มีความดุดัน ผ่านมุมมองของกระจังหน้าสีดำแบบใหม่ กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ สเกิร์ตหน้าและสปลิตเตอร์หน้าใหม่ กาบบันไดใหม่ ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังและกันชนหลังแบบใหม่ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาของ AMG ทุกอย่างได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับ aerodynamic เพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากแรงต้านทานของกระแสอากาศ ประสิทธิภาพด้านการทำระยะทางเมื่อชาร์จไฟมาจนเต็มแบตฯ Mercedes กล่าวว่า AMG EQE วิ่งได้ 444 – 518 กิโลเมตร (276 ถึง 322 ไมล์) ซึ่งน้อยกว่าตัวเลข 659 กิโลเมตร (410 ไมล์) ใน EQE รุ่นมาตรฐานมาก สามารถชาร์จในระบบ DC ถึง 170 กิโลวัตต์ เรียกคืนระยะทาง 180 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียงแค่ 15 นาที การเปลี่ยนแปลงภายนอก ยังส่งผลต่อระยะทาง ด้วยเรือนร่างที่มีความลู่ลม AMG พยายามค้นหาความสมดุล ความก้าวร้าวและดาวน์ฟอร์ซด้วยหลักอากาศพลศาสตร์ที่มีตัวเลขค่า CD ต่ำสุดๆ นอกจากกระจังหน้าสีดำพร้อมแถบแนวตั้งและตราสัญลักษณ์ AMG แล้ว คุณจะได้พบกับสปลิตเตอร์ด้านหน้าสีดำ พร้อมช่องระบายอากาศที่ป้ายชื่อ แผงด้านข้างด้านล่างสีดำ ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง ล้อใหม่ และสปอยเลอร์ฝากระโปรงท้ายขนาดเล็ก.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/