“จิงจิง ไอศกรีม บาร์ แอนด์ คาเฟ่” ร้านเก๋ๆ @เยาวราช




การเดินทางมาหาของอร่อยย่าน “เยาวราช” เป็นเรื่องไม่ยากอีกต่อไป นับตั้งแต่เปิดบริการรถไฟฟ้าใต้ดิน “สถานีวัดมังกร” เมื่อกลางปี 2562 พอเดินขึ้นมาจากสถานีรถไฟก็เจอ วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ พอดิบพอดี น่าเสียดายที่เยาวราชอาจเงียบเหงาไปบ้างเพราะผลกระทบจากพิษโควิด-19 แต่หลังผ่อนคลายบรรยากาศล็อกดาวน์ พ่อค้าแม่ขายต่างกลับมาคึกคัก “คุณชายแป๊ะ” ขอเปลี่ยนบรรยากาศตามหา “ไชนีส คาเฟ่” เก๋ๆ มาเสนอท่านผู้อ่าน รับรองว่าถูกใจผู้ชื่นชอบทั้งของอร่อย และการถ่ายภาพแน่นอน

“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ ขอแนะนำร้าน “จิงจิง ไอศกรีม บาร์ แอนด์ คาเฟ่” ของ “คุณปู–ชุตินาถ ทัศนานุพันธ์” ตั้งอยู่เลขที่ 154 ซอยเจริญกรุง 14 ถนนเจริญกรุง แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ เดินลัดเลาะเข้าซอยเจริญกรุง 14 เพียง 50 เมตร จะต้องสะดุดตากับคาเฟ่สุดฮิป ออกแบบร้านสไตล์ “โมเดิร์น ไชนีส ลอฟท์” เนรมิตตึกแถว 1 คูหา ให้เก๋ไก๋ขึ้นทันตา แค่ประตูเข้าร้านก็ดูเก๋ไม่ซ้ำใคร เป็นประตูบานไม้ที่จับประตูแบบจีนโบราณขนาดกะทัดรัด ได้อารมณ์เหมือนอยู่ในหนังจีนกำลังภายในย้อนยุค เมื่อจอมยุทธ์เยื้องกรายเข้าโรงเตี๊ยม เพียงแค่ที่นี่ไม่ได้มีหมั่นโถวไว้เสิร์ฟ พอเปิดประตูเข้าไปจะพบกับตู้แช่ไอศกรีมแบบแนวนอนขนาดใหญ่ มองเห็นไอศกรีมหลากรสเกือบ 20 รสชาติผ่านกระจกใส ละลานตาจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว

“น่ากินไปหมดเลย” ผมหลุดปากเหมือนเด็กๆ ขณะยืนเกาะหน้าตู้ไอศกรีม

“งั้นลองชิมซิกเนเจอร์ของร้านหน่อยไหมคะ” เจ้าของร้านออกปากเชิญชวน

ผมหย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้กลมทำจากไม้ วัดจากน้ำหนักแล้วแข็งแรงตามแบบฉบับคนจีนชอบของทนทาน ผมมองดูคุณปูตักไอศกรีมกะทิลูกใหญ่ใส่ลงในแก้วแช่เย็น มองเห็นไอความเย็นเคลือบบนผิวแก้ว ช่วยยืดเวลารักษาอุณหภูมิไอศกรีมคงรูปได้อีกระยะ แป๊บเดียวเจ้าของร้านก็หันไปที่เครื่องชงกาแฟ บดกาแฟอัดจนแน่น ล็อกเข้าเครื่องชง ปล่อยให้น้ำร้อนไหลลงถ้วยชาจีนช้าๆ กลิ่นกาแฟเอสเพรสโซ่หอมฟุ้งไปทั่วร้าน

“อัฟโฟกาโตค่ะ เวลาทานค่อยๆเทช็อตเอสเพรสโซ่ลงในแก้วไอศกรีมนะคะ” พูดพลางยกถาดใส่แก้วไอศกรีมกะทิสด และช็อตเอสเพรสโซ่พร้อมเสิร์ฟ

ผมทำตามคำแนะนำ สีสันความเข้มของกาแฟดำตัดกับสีขาวของไอศกรีมกะทิสด ความร้อนของกาแฟค่อยๆละลายผ่านความเย็นของผิวไอศกรีมให้เซตตัวลงไปยังก้นแก้ว “ไอติมอะไรทำไมน่ากินขนาดนี้” ผมคิดในใจ รสชาติของกาแฟและตัวไอศกรีมเข้ากันอย่างลงตัว ความหวานมันของกะทิสดช่วยชูรสชาติและความหอมของเอสเพรสโซ่ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทานแล้วชื่นใจ ปลุกร่างกายให้สดชื่น

“อัฟโฟกาโตเป็นภาษาอิตาเลียน ทั่วไปมักทานกาแฟคู่กับไอศกรีมรสวานิลลา แต่ต้องการชูไอศกรีมกะทิสดให้เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน” คุณปูขยายความ

“เรามี “บราวน์ บัทเตอร์ บิสคอฟฟ์” เป็นเมนูพิเศษประจำเดือนธันวาคมด้วยนะคะ” คุณปูพูดพร้อมเดินไปตักไอศกรีมให้ผมชิม แก้วนี้มีแครกเกอร์ยี่ห้อ “โลตัส” ทราบจากคุณปูว่ากำลังเป็นที่นิยมตามร้านคาเฟ่ ปักไว้เหนือไอศกรีมลูกใหญ่ รสชาติหวานมันเข้มข้น กลิ่นของเนยหอมขึ้นจมูก ไอศกรีมรสนี้เนื้อแน่น มีความกรุบกรอบของแครกเกอร์ที่บดลงไปเป็นส่วนผสม ถูกใจคนชอบความหวานมันเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีไอศกรีม “บลูเบอร์รี ชีส พาย” เป็นไอศกรีมครีมชีส ราดท็อปปิ้งด้วยบลูเบอร์รีเชื่อม รสชาติลงตัว มีความมันของชีสผสมกับเนื้อบลูเบอร์รี เคี้ยวแล้วเนื้อยังหนึบๆ รสชาติความหวานมันเข้ากันดี

ไม่ทันไร “แพนเค้กกล้วยผัดซอสคาราเมล” ถูกนำมาเสิร์ฟ ไอความร้อนโชยขึ้น ส่งกลิ่นหอมเนยและคาราเมลยั่วน้ำลายมาก ผมยกซอสคาเรเมลในแก้วช็อต บรรจงราดลงบนแป้งแพนเค้กร้อนๆ ด้านบนวางกล้วยหอมกำลังสุกงอม ฝานเป็นชิ้นพอดีคำ ทานคู่กันแล้วรับรู้ถึงความอุ่นที่ค่อยๆเคลื่อนลงกระเพาะ รสชาติความหวานของซอสคาราเมลมีรสเค็มปะแล่มๆ นอกจากจะเด่นดังเรื่องไอศกรีมแล้ว ยังมีเมนูอาหารคาวให้เลือกชิมอีกหลายจาน ทั้ง ข้าวไข่ข้น เห็ดผัดน้ำมันหอย และสปาเกตตีราดซอสเย็นตาโฟ ทานคู่กับเกี๊ยวกรอบและผักบุ้งลวก

คุณปูเล่าว่า “จิงจิง ไอศกรีม เน้นเรื่องการใช้วัตถุดิบที่เป็นของจริง ไม่ใช่วัตถุสังเคราะห์ ยกตัวอย่างเช่น น้ำลอยดอกมะลิ เรานำดอกมะลิสดๆมาลอยน้ำเพื่อให้ได้กลิ่นหอมของมะลิจริงๆ ไม่ได้ใช้กลิ่นสังเคราะห์ ชื่อร้านใช้คำว่า “จิงจิง” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว มีความหมายเดียวกับคำว่า “จริง” ในภาษาไทย ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่เปิดร้านมา เราทำไอศกรีมไปแล้ว 50 รสชาติ มีการหมุนเวียนรสให้บริการที่หน้าร้าน 20 รสชาติ”

“ในช่วงวันพิเศษของแต่ละเดือน มีการคิดค้นไอศกรีมรสชาติใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้ลอง อย่างในช่วงวันวาเลนไทน์ เรามีไอศกรีมเย็นตาโฟ นำซอสเย็นตาโฟมาเป็นส่วนผสมให้การทำไอศกรีมมีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย เสิร์ฟคู่กับผักบุ้งลวกและเกี๊ยวกรอบ หรือในช่วงเทศกาลตรุษจีน ก็เตรียมไอศกรีมรสส้มไว้ให้ลูกค้าได้ชิม เทศกาลสงกรานต์เป็นไอศกรีมน้ำลอยดอกมะลิ เป็นรสชาติที่ขายดีเอาดอกมะลิไปแช่ในน้ำนม ให้มีความหอมทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น”

ทานทั้งแพนเค้กและไอศกรีมจนแน่นท้อง คุณปูพาเดินย่อยด้วยการขึ้นไปสำรวจที่ชั้นสองของร้าน ตกแต่งไว้ในสไตล์ “โมเดิร์น ไชนีส ลอฟท์” อย่างลงตัว ทั้งชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้สีเข้ม ผนังใช้อิฐเรียงเว้นระยะไว้อย่างพอเหมาะ ดูโก้หรูด้วยโคมไฟระย้า ตัดกับเหล็กดัดบานหน้าต่างทุกสิ่งทุกอย่างบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคุณปูอย่างชัดเจน เมื่อเธอเป็นลูกหลานเยาวราชมาตั้งแต่เกิด

สนนราคาไอศกรีม 1 ลูก รสโอริโอ้, ไมโล, ช็อกโกแลต, ซอสคาราเมล, บลูเบอร์รี, โยเกิร์ต และอัญชันมะนาว 60 บาท, ไอศกรีมผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 90-120 บาท, ไอศกรีมชีสพาย 90 บาท, อัฟโฟกาโต 120 บาท, ไอศกรีมปั่น 150 บาท, ไอศกรีมโฟลต 120 บาท, แพนเค้กกล้วยผัดซอสคาราเมล 120 บาท, กาแฟเอสเพรสโซ่ 60 บาท, คาปูชิโน่ 75 บาท และ มอคค่า 90 บาท ร้าน “จิงจิง ไอศกรีม บาร์ แอนด์ คาเฟ่” เปิดตั้งแต่เวลา 09.30-17.30 น. หยุดทุกวันอังคาร โทรศัพท์ 09–6642–6241 Facebook : JingJing Ice–cream Bar and Café หรือ IG : JingJing Ice–cream Bar and Café.

คุณชายแป๊ะ