จะเลือกอยู่…หรือไม่อยู่ฟ้าเดียวกันกับโควิด (ตอนที่ 2)




เป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง ซึ่งในเวลาเดียว กันกับที่ทุกประเทศอื่นๆมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสูงสุด เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดเวลาช่วง 2 ปีของการแพร่ระบาด จีนยังคงสามารถจัดงานได้ตามปกติ ในบรรดางานแสดงสินค้าหรือการประชุมระดับโลกที่จีนจัดขึ้นทุกปีนั้น เช่น งานแสดงสินค้าเมืองกวางตุ้ง การประชุมใหญ่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ งานแสดงเปิดตัวเรือ และเครื่องบินที่จีนสร้างได้เองที่เมืองไหหลำ และอื่นๆที่มีชาวต่างประเทศนับร้อยประเทศและคนในประเทศจำนวนมากมาชมด้วยตัวเอง หรือ online โดยจีนได้ผสมผสานระบบป้องกัน และ เทคโนโลยีอย่างลงตัว ในขณะที่ประเทศใหญ่อื่นๆ ในโลกจำเป็นต้องยกเลิกกิจกรรมใหม่ๆเหล่านั้นเป็นส่วนใหญ่

การต่อสู้กับโอมิครอนที่เมืองซีอาน เหอเป่ย เทียนจิง ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนประมาณ 20 ล้านคนในบางมณฑล และมีการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วก็ตาม จีนยังสามารถล้อมกรอบไม่ให้เชื้อแพร่ไปที่อื่นได้ง่ายๆ โดยทำการดับควันที่ปะทุในแต่ละแห่งตั้งแต่เนิ่นๆ และใช้รูปแบบส่วนที่สำเร็จจากการต่อสู้ที่อู่ฮั่นมาใช้ จึงทำให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว จะสังเกตเห็นได้ว่า แต่ละเมืองที่อยู่รอบปักกิ่งนั้นถูกวางแนวป้องกันที่แน่นหนาหลายชั้น เพราะเป้าหมายก็คือการรักษาปักกิ่งให้ได้ เพื่อความสะดวก ปลอดภัยในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูหนาว ที่ปักกิ่ง (ซึ่งถ้าหากยังจำได้ว่า ปีที่แล้วที่ญี่ปุ่นจัดโอลิมปิกฤดูร้อนนั้น ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง อันเนื่องจากเชื้อเดลตาด้วยซ้ำที่ยังไม่ใช่โอมิครอนที่แพร่เร็วกว่า)

การต่อสู้โควิดที่เปรียบเสมือนศัตรูในแต่ละเมืองของจีนตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เปรียบเสมือนคนจีนต่อสู้กับทหารญี่ปุ่น สมัยรุกรานจีน ภาวะผู้นำ ความสามัคคี ความเสียสละ และอื่นๆแทบไม่แตกต่างกัน ต่างกันที่เห็นและไม่เห็นศัตรูเท่านั้นกิจกรรมแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดู หนาว ที่จะเกิดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง จะเห็นชาวต่างประเทศจำนวนหลายหมื่นคนที่มาจากประเทศทั่วโลก ที่อาจพกพาเชื้อโรคจำนวนมากมาที่จีนจะเป็นบทพิสูจน์สูงสุดและจะเป็นบทสุดท้ายของจีนหรือไม่ในการต่อสู้กับเชื้อโควิดให้บรรลุตามเป้าหมาย ที่จะให้โควิดเป็นศูนย์หรือจะคล้อยตามหลายประเทศ เช่น เดนมาร์ก

เส้นทางและเหตุการณ์การเกิด เชื้อโควิดที่เมืองอู่ฮั่นจนถึงปัจจุบันที่เมืองอู่ฮั่นเมืองใหญ่สุดในมณฑลหูเป่ย ในประเทศจีน ในวันที่ 23 เดือนมกราคม 2020 ได้มีการประกาศการเกิดเชื้อระบาดรุนแรงที่เรียกว่าโควิด ต้นตอที่อู่ฮั่น และเริ่มมีการตรวจเชื้อทั่วประเทศ พบว่ามีผู้ติดเชื้อประมาณ 830 คน เสียชีวิต 26 คน จำนวนครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้ออยู่ที่เมืองอู่ฮั่น แสดงว่าเชื้อนี้ได้เกิดมาระยะหนึ่งและเริ่มแพร่ไปเมืองอื่น ทางการได้เริ่มมาตรการเข้มข้นและรุนแรงที่ถูกต้องอย่างมาก

ในขณะที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงทุกอย่าง เมื่อพอจะรู้ว่าเชื้อโรคนี้ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจและรุนแรง ความเด็ดขาดที่ถูกนำมาใช้ทันทีโดยไม่ลังเล คือการสั่งปิดเมืองทั้งหมดที่มีประชากรประมาณ 10 ล้านคน ด้วยเป้าหมายของการหยุดปัญหาที่เมืองนี้แล้วหาสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขให้ได้ ขณะนั้นกำลังเข้าช่วงตรุษจีนเป็นระยะที่มีการเดินทางไปมามากสุดในประเทศ ความโกลาหลจึงเกิดขึ้น

กิจกรรมนี้เป็นสิ่งใหม่มีผู้คนพยายามอพยพออกจากเมืองในระยะแรกจำนวนมาก และมีบ้างที่เดินทางเข้าเมือง การปิดเมืองในยุคปัจจุบันไม่เหมือนสมัยโบราณที่แค่ทำการปิดประตูเมืองบานใหญ่ๆไม่กี่ทางแล้วส่งทหารถืออาวุธทำการคุมที่ประตูเมืองแล้วเรื่องก็จบ เมืองใหญ่อย่างอู่ฮั่นในปัจจุบันมีเส้นทางคมนาคมที่หลากหลายมากมาย ทั้งบก ถนนนับไม่ถ้วน เรือ อากาศ เชื่อมโยงต่างประเทศและเมืองในประเทศมากมาย ต้องใช้ความเด็ดขาดและความเข้มจึงจะกระทำตามคำสั่งแบบนี้ได้เกือบจะในทันที ทุกอย่างเริ่มหยุดนิ่ง การคมนาคมหยุดสนิท ผู้คน บนถนนเริ่ม ไม่มีให้เห็น บ้านเรือนถูกสั่งให้ปิดประตูโดย เด็ดขาด ห้ามออกจากบ้านโดย ไม่ได้รับอนุญาต ร้านค้ากิจการภัตตาคารต่างๆปิดหมดยกเว้นร้านขายของสะดวกซื้อ

หลังจากเริ่มปิดเมือง เวลาผ่านไปจำนวนคนติดเชื้อเริ่มเพิ่มขึ้นทุกวันถึงหลักหมื่นคน จนทำให้ทุกอย่างเริ่มติดขัดและขาดแคลนอย่างหนัก ตั้งแต่อาหาร เวชภัณฑ์ และทุกอย่างที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ

หลักการที่ใช้ในระยะแรกของการต่อสู้ (พบเร็ว ตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว) สร้างระบบบังคับบัญชาทั้งระบบของสาธารณสุขและหน่วยงานสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนด้วยเทคโนโลยี สร้างระบบการให้ความรู้และมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบ ป้องกัน การตรวจให้พบให้มากที่สุดของผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว ตอบสนองในทุกด้านทันทีต่อจุดที่ตรวจพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน ต้องล้อมกรอบบริเวณเหล่านั้นทันทีถึงแม้เป็นจุดไม่ใหญ่มาก

ควบคุมไม่ให้การติดเชื้อแต่ละจุดเพิ่มขึ้นและต้องลดลงให้เหลือหลักสิบ การป้องกันและรักษาต้องดำเนินควบคู่กันไป ทุ่มเทรักษาผู้ติดเชื้อและช่วยชีวิตอย่างสุด กำลัง อิงกฎหมายและเปิดเผยข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับข่าวโควิดอย่างรวดเร็วและโปร่งใส พึ่งพาหลักวิทยาศาสตร์ในการกำหนดแนวทาง ทำงานทั้งระบบ รับรู้ความร้ายแรงของโรค ซึ่งต้องรวมพลังที่มีทั้งหมดเข้าต่อสู้

เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งต้องรักษาให้เกิดความสมดุลระหว่างความอยู่รอดทางเศรษฐกิจและการป้องกันรักษาของประชาชน สนับสนุนและเปิดเผยข้อมูลแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้กับองค์กรระหว่างประเทศมีวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการเกิดเหตุแต่ละที่ แยกแยะบริหาร แก้ปัญหาตามจริง ดูแลความปลอดภัยของบุคลากร หลีกเลี่ยงการใช้ระบบเบ็ดเสร็จ One size fits all เริ่มด้วยระบบง่ายๆและเพิ่มความเข้มข้นทีละขั้น

แต่ละที่ต้องวิเคราะห์องค์รวมและแยกแยะกลุ่มเสี่ยงต้องมีมาตรการเข้มข้น เทศกาลตรุษจีนไม่มียกเว้น เข้มสุด ในพื้นที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งคนและสินค้า พัสดุ และแล้วช่วงเวลาของการปิดเมือง 76 วัน ก็ได้เห็นเรื่องราวมากมายที่สามารถจารึกในประวัติศาสตร์ และไม่มีที่ใดในโลกเหมือน แต่สิ่งเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดความสำเร็จในการหยุดการแพร่ของเชื้อ เช่น ความหยุดนิ่งเกือบทุกอย่างของผู้คน และยานพาหนะ เครื่องจักร การระดมแพทย์พยาบาลจากทั่วประเทศมาที่เมืองนี้ ระดมอาสาสมัคร สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาช่วยงานทั้งด่านหน้าด่านหลัง และมีอาสาสมัครเข้าร่วมจำนวนมหาศาล การส่งทหารเข้าสร้างโรงพยาบาลสนามจำนวนหลายพันเตียง หลายๆแห่งได้ภายในไม่กี่วัน มีการระดมตรวจถึงบ้านของประชากร ขณะนั้นเกือบ 10 ล้านคนได้ภายใน 10 วัน

มีการแยกแยะกักบริเวณผู้ติดเชื้อจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว บนถนนมีแต่กองทัพชุดขาวเดินตามถนนเพื่อตรวจผู้คน มีการพ่นสารเคมีทำความสะอาดสถานที่ทุกแห่งหลายๆรอบ

มีการจัดรอบให้ประชาชนออกจากบ้านได้เพียงบ้านละคนและในช่วงหลายวันออกมาได้เพียงครั้งเดียว และแน่นอนผู้นั้นต้องผ่านการตรวจเชื้อหลายรอบจนแน่ใจ มีการจัดระบบส่งกำลังบำรุงทุกด้านผ่านระบบ social media ที่ใหญ่โตที่สุดในประวัติศาสตร์ มีการจัดระบบขนส่งคนทั้งบุคลากรทำงานและประชาชนที่ต้องทำงานทั้งวันทั้งคืนไม่มีหยุด มีเรื่องราววีรกรรม ผู้เสียสละทำงานเสี่ยงตาย และเสียชีวิต ทั้งหมอ บุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยสนับสนุนจำนวนมาก รัฐบาลกลางสนับสนุนเต็มที่ในทุกด้านที่จำเป็น ประธานสีได้เดินทางไปเยี่ยมที่อู่ฮั่น หลายครั้ง มีการทำโทษเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่หย่อนยาน และประชาชนที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบอย่างหนัก

การส่งอาสาสมัครไปช่วยผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว หรือผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ถึงบ้านประสบการณ์ที่อู่ฮั่นที่สามารถควบคุมได้ในที่สุด ได้แลกมาด้วยความเสียสละและชีวิตแพทย์ บุคลากรด่านหน้าและหลังสุดคณานับ แลกมาด้วยทรัพยากรและเงินทองมากมาย แลกมาด้วยความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างประมาณค่ามิได้ในช่วงเกือบ 3 เดือน

แต่ในที่สุดการเอาอยู่ทำให้การติดเชื้อในประเทศลดเกือบหมด ทำให้เศรษฐกิจสามารถกลับมาดำเนินการตาม ปกติได้อย่างรวดเร็ว เป็นโรงงานของโลก ผลิตสินค้าต่างๆ ป้อนอุปทานแก่ประเทศอื่นที่ไม่สามารถฟื้นคืนได้ ทำให้ลดผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของโลกให้น้อยลงมาก.

หมอดื้อ